PLANB อัตราใช้สื่อพุ่ง หนุนกำไรเด้ง!

หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย เปิดเมืองเปิดประเทศ มีการใช้เม็ดเงินโฆษณามากขึ้น ทำให้ PLANB กลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง


คุณค่าบริษัท

การมาของโควิด แม้ไม่ถึงขั้นทำให้บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ซึ่งทำธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาครบวงจร ต้องเข้าไปนอนรักษาตัวในห้องไอซียู แต่ก็บาดเจ็บสาหัส สะท้อนได้จากรายได้และกำไรที่ลดลงฮวบฮาบ แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย เปิดเมืองเปิดประเทศ มีการใช้เม็ดเงินโฆษณามากขึ้น ทำให้ PLANB กลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง

โดยในปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 703 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 998% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 64 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการ 6,590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.3% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้จากการขายและบริการ 4,443 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ตั้งบริษัทมาเลยทีเดียว

การเติบโตดังกล่าว แบ่งเป็น ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน มีรายได้ 5,278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.6% ในขณะที่ธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม มีรายได้ 1,312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9%

สำหรับปี 2566 คาดว่าจะเติบโตได้ต่อ ตั้งเป้าหมายมีรายได้รวม 7,200-7,500 ล้านบาท จากเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมที่ขยายตัวได้ดีกว่าปี 2565 โดยเฉพาะรายได้จากสื่อโฆษณากลางแจ้ง หรือสื่อนอกบ้าน (OOH) ทุกรูปแบบที่เติบโตขึ้น คิดเป็น 75% ของรายได้รวม บวกกับสื่อในสนามบินที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2566 คาดว่าอัตราการใช้สื่อ (Utilization rate) ในสนามบินจะเพิ่มขึ้นเทียบเท่าก่อนช่วงก่อนเกิดโควิดที่อยู่ระดับ 60% จากปี 2565 อยู่ที่ 30%

ส่วนธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม ซึ่งคิดเป็น 25% ของรายได้รวม โดยแบ่งเป็น ธุรกิจสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง สร้างรายได้จากสปอนเซอร์และรายได้ที่เกี่ยวข้องจากกระแสชิงถ้วยเอเชีย และคัดโอลิมปิกของฟุตบอล 200 ล้านบาท การสร้างรายได้จากกีฬาต่อสู้ คือ RWS ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ ทั้งอีเวนต์และจำหน่วยบัตร 400 ล้านบาท การสร้างรายได้จากการถ่ายทอดสดเอเชียนเกมส์ทั่วโลก 250 ล้านบาท และการสร้างรายได้จากการโปรโมตซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ เอเชียนพาราเกมส์ อาเซียนพาราเกมส์ และ ที สปอร์ต 400 ล้านบาท ด้านธุรกิจการบริหารศิลปิน เตรียมจัดงาน 8-9 อีเวนต์ และ 5-6 ซิงเกิลอัลบั้มใหม่ของ BNK48 และ CGM48 คาดหวังสร้างรายได้ 450 ล้านบาท โดยในปี 2566 วางงบลงทุนไว้ประมาณ 700–1,000 ล้านบาท

ขณะที่ PLANB ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายภายในปี 2568 จะมีรายได้รวมแตะ 10,000 ล้านบาท

ด้านบล.หยวนต้า ระบุว่า แนวโน้มในไตรมาส 1/2566 ของ PLANB คาดผลประกอบการจะเติบโตดีจากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามอุตสาหกรรมสื่อ OOH ในเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่เติบโต 25% สวนทางกับเม็ดเงินโฆษณารวมที่ชะลอตัว 8% โดยประเมินเม็ดเงินโฆษณาของสื่อ OOH ปี 2566 จะเติบโต 20% เทียบกับอุตสาหกรรมที่เติบโต 5% ขณะที่ปี 2566 มองว่า PLANB จะเติบโต Outperform กลุ่ม ผลบวกจากทั้งการเปิดประเทศ เม็ดเงินจากการเลือกตั้ง และการรุกธุรกิจ Engagement รวมถึงการรับรู้รายได้จาก AQUA เต็มปี

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น PLANB ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 51.12 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 19.08 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาดหลายเท่า สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 4.54 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.58 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 9.65 บาท จากราคาต่ำสุด 8.80 บาท และราคาสูงสุด 10.70 บาท

Back to top button