พาราสาวะถี

กรณีที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันต่างโชว์นโยบายที่จะแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ด้วยสารพัดวิธี ทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจถูกทวงบุญคุณทันที


กรณีที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันต่างโชว์นโยบายที่จะแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ด้วยสารพัดวิธี ทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจถูกทวงบุญคุณทันที อย่าลืมความเป็นพันธมิตรที่ร่วมกันทำงานในนามรัฐบาลมานานกว่า 4 ปี ประเด็นที่ถูกโจมตีไม่เฉพาะเรื่องค่าไฟแพง แต่ทุกเรื่อง “ต้องร่วมกันรับผิดชอบ” ไม่ใช่มาโยนให้คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว นี่แหละการเมืองของแท้และดั้งเดิมเมื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้งไม่มีคำว่ามิตรแท้

ส่วนศัตรูถาวรก็น่าจะมีเพียงผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและลิ่วล้อในองคาพยพของพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งเท่านั้น ที่ไม่อาจสังฆกรรมกับพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามได้ เป็นการตีเส้นวางกรอบด้วยความเชื่อมั่นในกลไกที่ได้วางกันไว้เพื่อการอยู่ยาว พรรคการเมืองไหนจะชนะเลือกตั้ง ถ้าไม่สะเด็ดน้ำขาดลอยก็จะเข้าทางขบวนการสืบทอดอำนาจในการที่จะใช้ 250 เสียง ส.ว.ลากตั้งมากดดันเพื่อให้โหวตเลือกคนเดียวคนเดิมเป็นนายกฯ ต่อไป

ความมั่นใจเช่นนี้มันจึงนำมาซึ่งความไม่ไว้วางใจของขั้วการเมืองเดิมที่เคยจับมือกัน การไปเป็นคนแบกเสลี่ยงให้ท่านขุนได้นั่งเหมือนหลังเลือกตั้งปี 2562 นั้น มันไม่ได้ง่ายเหมือนเดิม เพราะหนนั้น พรรคที่เข้ามาค้ำยันเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ มีคะแนนเสียงที่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้การเจรจาแบ่งกระทรวงดูแลตกลงกันได้ และเป็นการคว้าเอากระทรวงเกรดเอที่พรรคตัวเองอยากไปกุมบังเหียนไว้ได้ทั้งหมด

แต่การเลือกตั้งหนนี้ หากจะตั้งรัฐบาลขั้วเดิมโดยชูผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจให้เป็นนายกฯ โดยพรรคที่ตัวเองสังกัดได้คะแนนเสียงน้อยกว่าพรรคร่วมไม่ว่าจะเป็นพรรคสืบทอดอำนาจ ภูมิใจไทย หรือแม้แต่ประชาธิปัตย์ คำถามตัวโตคือแล้วจะแบ่งเค้กกันอย่างไร หากพอใจที่แค่ได้หัวโขนผู้นำประเทศกลับคืนมา ส่วนกระทรวงต่าง ๆ ไปว่ากันเอาตามความพอใจของแต่ละพรรค แค่นึกภาพตามก็วุ่นวายแล้ว ยังไม่นับประเด็นที่ว่า การรวบรวมเสียงเพื่อตั้งรัฐบาลขั้วเดิมจะได้ถึง 250 เสียงหรือไม่

แม้ ส.ว.ลากตั้งกระเหี้ยนกระหือรือที่พร้อมจะโหวตให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจขนาดไหน แต่มันไม่ได้จบที่ว่าโหวตเลือกเป็นนายกฯ แล้วทุกอย่างจบ ถ้าเสียง ส.ส.บวก ส.ว.เกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภา แต่ในสภาผู้แทนราษฎรพรรครัฐบาลมีเสียงน้อยกว่าฝ่ายค้าน ทุกอย่างมันก็จบตั้งแต่คิดแล้ว และพรรคการเมืองที่คิดจะเข้าร่วมคงไม่มีใครกล้าทำเช่นนั้น คงไม่มีใครบ้าที่จะเดินเข้าไปสู่ความหายนะทางการเมืองอย่างแน่นอน

ยิ่งได้สแกนความเป็นไปได้ของผู้ที่จะได้รับเลือกเป็น ส.ส.ตามที่ได้บอกไปวันก่อน ก็ทำให้เห็นแล้วว่าโอกาสที่จะได้ที่นั่งในสภาหินอ่อนอย่างเป็นกอบเป็นกำของพรรคผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจนั้น ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เป็นไปได้ยาก ยิ่งพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ได้กระชับความสัมพันธ์แสดงตัวเป็นพันธมิตรกับภูมิใจไทยของ อนุทิน ชาญวีรกูล อย่างเด่นชัด ก็เท่ากับเป็นการปิดทางที่จะให้น้องเล็กได้หวนคืนสู่อำนาจนั่นเอง ดังนั้น นายกฯ คนที่ 30 จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ส่วนจะเป็นใครนั้นมันอยู่ที่ผลของการเลือกตั้ง หากเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้ ส.ส.ไม่ต้องถึง 310 เสียง เอาแค่ระดับ 240-260 เสียง โอกาสหวนคืนสู่ตำแหน่งของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็แทบจะปิดประตูตายไปได้เลย ที่เหลือจะเป็นเรื่องการต่อรองกับพรรคที่จะเข้ามาร่วม ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับว่าตัวเลข ส.ส.ที่มารวมกันนั้นมากพอที่จะกดดันให้ ส.ว.ลากตั้งต้องยอมโหวตเลือกคนที่พรรคแกนนำตั้งรัฐบาลเสนอหรือไม่ ในกรณีนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพิงบารมีจากพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.แต่อย่างใด

กรณีนี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นขั้วรัฐบาลเดิมเปลี่ยนบทบาทไปนั่งเป็นฝ่ายค้านทั้งหมด แต่โอกาสเช่นนั้นน่าจะยาก เพราะคำนวณตัวเลขกันจากโพลของแต่ละพรรคที่ได้ไปทำกันมา โดยเฉพาะของพรรคเพื่อไทย เมื่อรวมเสียงกับพรรคฝ่ายค้านเดิมก็ยังไม่มากพอที่จะกดดัน ส.ว.ลากตั้งได้ จึงต้องอาศัยเสียงจากพรรคสืบทอดอำนาจหรือภูมิใจไทยในการมาช่วยให้ปิดสวิตช์ ส.ว. ขณะเดียวกันมีการเดินเกมเจรจากับ ส.ว.ส่วนหนึ่งที่เชื่อว่าพร้อมจะสนับสนุนพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง

แต่จนถึงนาทีนี้ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะมีจำนวนที่จะรับรองได้ว่าเมื่อถึงเวลาโหวตเลือกนายกฯ แล้วจะไม่เกิดการเบี้ยวกันเกิดขึ้น ซึ่งแนวโน้มของการต่อรองก็มีเงื่อนไขอยู่ว่าถ้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านได้เสียงเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็พร้อมที่จะสนับสนุนไม่ต้องห่วงเรื่องบุญคุณที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากอำนาจเผด็จการ เนื่องจาก ส.ว.กลุ่มนี้มีความเชื่อกันว่าได้ตอบแทนและทำหน้าที่ตามที่คนเซ็นชื่อแต่งตั้งต้องการมามากพอแล้ว

แนวโน้มผลของการเลือกตั้งหากไม่เกิดการใช้วิชามารยังไงเพื่อไทยก็กำชัยชนะแบบขาดลอยได้แน่ แรงกดดันในการหาเสียงของพรรคนายใหญ่วันนี้จึงไม่ได้อยู่ที่ว่า พรรคคู่แข่งจะแสดงศักยภาพในการนำเสนอนโยบายหรือตัวบุคคลได้ดีกว่า แต่อยู่ที่ว่าเกิดคำถามจากนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ประชาชนผู้สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากระดับนำของพรรค หรือแม้แต่แคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทยว่า จะไปจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคที่สนับสนุนผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจหรือไม่

ในความหมายก็คือ จะเลือกพรรคสืบทอดอำนาจมาร่วมเป็นรัฐบาลหรือไม่ เรื่องนี้พรรคก้าวไกลมีความชัดเจนมากที่สุด มันจึงส่งผลต่อความนิยมจากสำนักโพลต่าง ๆ ว่าคะแนนเสียงดีวันดีคืน ส่วนเพื่อไทยการที่บอกว่าไม่จับมือกับคนทำรัฐประหาร ไม่มีดีลลับใด ๆ มันก็ยังเป็นนามธรรม หรือเป็นการตอบคำถามแบบแทงกั๊ก ต้องไม่ลืมว่า ในการซักฟอกของฝ่ายค้านที่ผ่านมา พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็ได้ป่าวประกาศในที่ประชุมสภาว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร โดยมีน้องเล็กยกมือยิ้มแป้นรับว่าทำแต่เพียงผู้เดียว

ท่าทีเช่นนี้มันเป็นการวางทางถอยที่เมื่อถึงเวลาก็จะมีการบอกว่า เหตุที่จับมือกับพรรคสืบทอดอำนาจเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร ด้วยท่วงทำนองเช่นนี้ฝ่ายที่ไม่เอาประยุทธ์ ไม่เลือกพรรคในเครือข่ายจึงยังรอคำตอบที่ชัดเจนและจริงจังจากเพื่อไทย ถ้าไม่ได้ก็จะหันไปเลือกก้าวไกล แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเสียงส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ฝ่ายไม่เอาประยุทธ์ ขณะที่ขั้วการเมืองในซีกรัฐบาลปัจจุบันก็ห้ำหั่นกันดุเดือดเพื่อแย่งชิงเก้าอี้ ส.ส.ในพื้นที่ความหวังซึ่งไม่ได้มีผลต่อตัวเลขในซีกฝ่ายค้านแต่อย่างใด

Back to top button