BLA เบี้ยประกันภัยรับปีแรกเติบโตดี

ผู้บริหาร BLA ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (First Year Premium) สำหรับปี 2566 จะเติบโต 17% จากปี 2565 จากการเติบโตของการขาย


คุณค่าบริษัท

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA โครงสร้างรายได้ของ BLA ณ สิ้นปี 2565 1.เบี้ยประกันภัยรับสุทธิ 72.02% 2.รายได้จากการลงทุนสุทธิ 25.26% 3.ผลกำไรจากเงินลงทุน 1.67% 4.รายได้ค่าจ้างและค่าบำเหน็จ 1.10% 5.รายได้อื่น ๆ 0.24% สัดส่วนเงินลงทุนของ BLA ณ สิ้นปี 2565 1.ตราสารหนี้ระยะสั้น 3.8% 2.ตราสารหนี้ภาครัฐ 48.2% 3.ตราสารหนี้ภาคเอกชน 31.7% 4.ตราสารทุน 8.5% 5.REIT 4.3% 6.เงินกู้ตามกรมธรรม์ 2.9% 7.เงินกู้ที่มีหลักประกัน 0.6%

BLA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2565 มีกำไรสุทธิ 279.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.85% จากไตรมาส 4/2564 แต่ลดลง 70.35% จากไตรมาส 3/2565 ที่มีกำไรสุทธิ 942.42 ล้านบาท ปัจจัยลบที่กดดันมาจากธุรกิจประกันภัยไตรมาส 4/2565 อ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน โดยเบี้ยประกันภัยรับสุทธิไตรมาส 4/2565 ลดลง 15.8% จากไตรมาส 3/2565 (แต่เพิ่มขึ้น 14.3% จากไตรมาส 4/2564) มาที่ 8,627 ล้านบาท ตามฤดูกาล โดยเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปในไตรมาส 4/2565 ลดลง 20.2% จากไตรมาส 3/2565 (แต่เพิ่มขึ้น 4.4% จากไตรมาส 4/2564) มาที่ 6,667 ล้านบาท จากช่องทางการขายผ่านธนาคาร และอื่น ๆ (เช่น ออนไลน์) ปรับลดลงตามฤดูกาล หักล้างผลกระทบจากเบี้ยประกันภัยรับปีแรก ในไตรมาส 4/2565 ที่เพิ่มขึ้น 4.3% จากไตรมาส 3/2565 และ 35.0% จากไตรมาส 4/2564 มาที่ 2,174 ล้านบาท โดยหลักจากช่องทางการขายผ่านตัวแทนและอื่น ๆ (เช่น ออนไลน์) ที่เพิ่มขึ้น จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Unit-linked และการปรับกลยุทธ์การขายที่ดีขึ้น

ส่วนรายได้จากธุรกิจลงทุนในไตรมาส 4/2565 ลดลง 8.3% จากไตรมาส 3/2565 และลดลง 4.9% จากไตรมาส 4/2564 มาที่ 2,997 ล้านบาท โดยอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ไตรมาส 4/2565 อ่อนตัวลงมาที่ 3.60% จาก 3.92% ในไตรมาส 3/2565 ส่วนกำไรสุทธิงวดปี 2565 เท่ากับ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 0.5% จากงวดปี 2564

BLA มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (CAR) ณ สิ้นไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 377% โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2565 ที่ 363% และเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 ที่ 301% มูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Embedded Value) ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 68,901 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 40.35 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 1% จาก ณ สิ้นปี 2564 จากการบริหารจัดการด้านสินทรัพย์และหนี้สิน ส่วนมูลค่าปัจจุบันของกรมธรรม์ใหม่ (Value of New Business) เท่ากับ 3,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากปีที่ผ่านมา เป็นผลจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น การปรับปรุงสัดส่วนสินค้า และการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย

ผู้บริหาร BLA ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (First Year Premium) สำหรับปี 2566 จะเติบโต 17% จากปี 2565 จากการเติบโตของการขายในทุกช่องทาง โดยกลยุทธ์สำคัญของ BLA ในปี 2566 คือการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาขายให้ตรงความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และเพิ่มการขายประกันสุขภาพ (Riders) ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตราการทำกำไรสูงมากขึ้นด้วย

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของ BLA ปี 2566-2567 ลง 9.1% และ 11.3% จากเดิม สะท้อนการปรับลดสมมติฐานเบี้ยประกันภัยรับสุทธิปี 2566-2567 ลง 9.1% และ 11.5% จากเดิม และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเบี้ยประกันภัยรับปีต่อ (Renewal Premium) ปี 2566 จะปรับลดลง 6% จากปี 2565 ทำให้เบี้ยประกันภัยรับรวมปี 2566 จะอ่อนตัวลง 2% จากปี 2565 โดยภายหลังปรับประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2566 จะเติบโต 11.1% จากปี 2565 จากธุรกิจประกันชีวิตฟื้นตัว ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มากขึ้น อาทิ ประกันชีวิตแบบ Unit Linked เป็นต้น

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) หุ้น BLA ราคาปัจจุบัน (ราคาปิดวันที่ 16 พ.ค. 2566 ที่ 25.25 บาท) ซื้อขายกันที่ P/E 13.61 เท่า ต่ำกว่า P/E กลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต ที่ 19.97 เท่า ส่วนค่า P/BV ของหุ้น BLA อยู่ที่ 0.94 เท่า ต่ำกว่า P/BV กลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต ที่ 1.52 เท่า

Back to top button