หุ้นงบสวย..ราคาไม่วิ่ง

หลังจากต้องสาละวนกับเรื่องการเมืองมาพักใหญ่ ก็ถึงเวลาหันมาดูหุ้นพื้นฐานแบบเต็มตัวเสียบ้าง เพราะสถานการณ์ของการเมืองเปลี่ยนตลอดเวลา


หลังจากต้องสาละวนกับเรื่องการเมืองมาพักใหญ่ ก็ถึงเวลาหันมาดูหุ้นพื้นฐานแบบเต็มตัวเสียบ้าง เพราะสถานการณ์ของการเมืองเปลี่ยนตลอดเวลาจนไม่รู้ว่า การจับมือจัดตั้งรัฐบาลเที่ยวนี้จริงใจกันขนาดไหน? เพราะหลายเรื่องที่ด้อมส้มประกาศจะทำแบบสุดซอย พอเอาเข้าจริงก็เสียงอ่อยขึ้นมาเสียอย่างนั้น “โมนิก้า” ถึงมองว่า ตลาดหุ้นไทยจะตกอยู่ในภาวะ “ช้ำเลือด ช้ำหนอง” ไปอีกระยะหนึ่งพะย่ะค่ะ

สาเหตุที่ทำให้เชื่อเช่นนั้นมาจากวันก่อนที่เล่าสเต็ปการขึ้นลงของดัชนีในแต่ละห้วงเวลาให้ฟังแบบจัดเต็ม และข้อมูลดังกล่าวก็เป็นนัยให้รู้ว่า เที่ยวนี้ไม่ได้ขึ้นแบบสุดซอยอย่างที่หลายคนเข้าใจ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นจับตาดูว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,536.51 จุด บวกไป 1.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.46 หมื่นล้านบาท จะมีแรงส่งให้ดัชนีขึ้นไปทดสอบ 1,570 จุดได้เหมือนรอบก่อนอ๊ะป่าว?

เนื่องจากข้อมูลที่เห็นกันอย่างทนโท่ชี้ว่า หุ้นที่ทำผลงานไตรมาส 1 โดดเด่นเหนือคำบรรยาย ยังถูกรินขายไม่เลิกสักที! และเหตุผลที่ขายส่วนใหญ่ก็มาจากความไม่มั่นใจในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ “ภายใน” หรือ “ภายนอก” ล้วนเป็นตัวบีบคั้นให้ขายแทบทั้งสิ้น “โมนิก้า” เลยอยากเม้าท์ถึงประเด็นนี้เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่มีเงินเย็น ซึ่งเล็งเห็นโอกาสทองในการซื้อหุ้นลงทุนระยะยาวจ้า!

รายแรกที่ชอบเม้าท์ถึงบ่อย ๆ “โมนิก้า” คงให้เครดิตกับเจ้าพ่อทวงหนี้อย่าง JMT ก่อนใครเพื่อน เพราะเห็นกันอยู่แล้วว่า งบไตรมาส 1 โตถึง 23% และกำไรปีนี้มีโอกาสทะลุ 2 พันล้าน รวมทั้งโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าอยู่ที่ระดับ 64 บาท แต่ราคาหุ้นในกระดานกลับไม่ตอบรับข่าวดีสักเท่าไหร่? ส่งผลให้ราคาหุ้นยืนนิ่ง ๆ อยู่แถว 40 บาทเป็นเวลานาน ขณะที่วานนี้ย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 41.50 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 261 ล้านบาทเสียอย่างนั้น!

ส่วนรายที่สองที่อยากเม้าท์ถึง ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล นั่นก็คือ EA ซึ่งเบ่งกำไรไตรมาส 1 ออกมาโตถึง 70% แถมนักวิเคราะห์ก็ให้ราคาเป้าสูงถึงระดับ 100 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 66 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 439 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการเล่นยาว ๆ เพราะมีอัพไซด์ให้กับนักเล่นสูงถึง 50% เลยนะจ๊ะ

เช่นเดียวกับสถานการณ์ของหุ้น SNNP ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ เช่นกัน แต่สถานการณ์ของรายนี้ดีกว่าสองรายแรกตรงที่ราคาหุ้นตอบรับเร็วกว่า ราคาหุ้นเลยถีบตัวขึ้นแรงในช่วงสองวันที่ผ่านมา ขณะที่วานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 24.90 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 212 ล้านบาท โดยมีเรื่องของกำไรไตรมาส 1 โต 46% และราคาเป้า 30 บาท เป็นแบ็กอัพให้แบบนี้..ชอบม๊า..ชอบม๊า!

สำหรับคนที่ชอบเล่นแบบดุเดือด และมีสตอรี่โกรทคอยเลี้ยงกระแส คงต้องมองไปที่หุ้น SABUY ไว้เป็นทางเลือกสำหรับการเล่นเก็งกำไรเป็นรอบ ๆ ผนวกกับเห็นตัวเลขกำไรไตรมาส 1 โต 55% จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า หุ้นตัวนี้น่าเล่น! ยิ่งเห็นโมเมนตัมของหุ้นขยับขึ้นต่อเนื่องสามสี่วัน ต่อจากนั้นก็พักเอาแรง ถัดจากนั้นก็ขึ้นใหม่อีกครั้ง เดี๊ยนถึงมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 12.40 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 2.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 220 ล้านบาท น่าเล่นสวนสักไม้สองไม้ไงล่ะคะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น III เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่ชอบเล่นหุ้นเป็นรอบ และนิยม “ซื้อล่าง ขายบน” ในช่วง 1-2 สัปดาห์ (หากไม่ไปก็ขายทิ้ง) เพราะเมื่อดูจากตัวเลขกำไรที่โตถึง 32% ควบคู่กับราคาเป้า 18 บาท มันทำให้การที่หุ้นยืนปิดที่ระดับ 12 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35 ล้านบาท เหมาะต่อการโหนกระแสขึ้นมาทันทีเจ้าค่ะ

ตบท้ายกันที่หุ้นนอกสายตาอย่าง HENG กันดีกว่า เพราะทันทีที่ผลงานของไตรมาส 1 ออกมาโตถึง 51% ก็เป็นช็อตที่วาดฝันว่า ผลงานในงวดถัดไปจะออกมาดีเช่นกัน ผสานกับราคาเป้าหมายที่โบรกเกอร์ให้ไว้อยู่แถว 3.80 บาท เดี๊ยนเลยมองว่า หุ้นตัวนี้มันเหมาะให้แมงเม่าเข้ามาเล่นเก็งกำไรเหลือเกิน หลังวานนี้หุ้นขยับตัวเล็กน้อยขึ้นมาปิดที่ 2.64 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16 ล้านบาทเองค่ะ

Back to top button