อึดอัดกับตลาดหุ้น!

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะอึมครึมต่อ นักลงทุนคิดจะซื้อหรือขายก็มีความ “อึดอัด” ใจเดี๊ยนเชื่ออย่างนั้น


เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะอึมครึมต่อ นักลงทุนคิดจะซื้อหรือขายก็มีความ “อึดอัด” ใจเดี๊ยนเชื่ออย่างนั้น เนื่องจากดัชนียังวนอยู่ในกรอบเดิม ๆ แล้วมาปิดที่ระดับ 1,530.84 จุด ลบไป 4.58 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.88 หมื่นล้านบาท เหตุไม่เห็นความคืบหน้าอะไรใหม่เข้ามาสนับสนุน แถมยังต้องเกาะติดประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อยู่กว่าจะเปิดสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรียังต้องใช้เวลา ระหว่างนี้ก็มีวิวาทะออกมาตลาดก็สวิงตาม แต่ไม่เห็นความคืบหน้าเชิงปฏิบัติการเลยเจ้าค่ะ 

เพราะอย่างไรต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะรับรอง ส.ส. วันที่ 13 ก.ค. 66 หลังจากนั้นภายใน 15 วัน เปิดประชุมสภาโหวตเลือกนายกฯ “โมนิก้า” คาดว่าน่าจะประชุมสภาได้ภายในสัปดาห์ที่ 3 ในเดือน ก.ค. ประกอบกับต้องเกาะติดประเด็นเพดานหนี้สหรัฐฯ ว่าเจรจากันจบเมื่อไรเช่นกัน ดังนั้นระหว่างนี้มีเพียงแต่กระแส ก็ยังทำให้ตลาดหุ้นผันผวน และนักลงทุนมีความอึดอัดในการเทรดหุ้นต่อไปเพคะ

โดยระหว่างนี้จะเห็นการเข้าเก็งกำไรในหุ้นรายตัวขนาดกลาง และขนาดเล็กที่ปัจจัยบวกเข้ามาหนุน ร้อน ๆ คงหนีไม่พ้นหุ้น MPIC ราคาแรงต่อไปไฟกระพริบ ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ   2.48 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 14.81% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 211 ล้านบาท หลังจากชื่อ “ขันเงิน ไทยเทเนี่ยม” เข้ามาถือหุ้นใหญ่เบอร์ 1 สัดส่วน 92.46% พ่วงนั่งตำแหน่งกรรมการ มีผลทันที “โมนิก้า” ก็แค่ฝากว่าพาเรือลำนี้ไปให้แตะขอบฟ้านะจ๊ะ                         

เช่นเดียวกับหุ้น ONEE ราคาเหมือนท่าทีจะฟื้นคืนชีพวิ่ง 4 วันติด จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.30 บาท บวกไป 0.36 บาท หรือขึ้นไป 7.29% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 136 ล้านบาท ก็ไม่รู้สินะเห็นนักวิเคราะห์ว่าครึ่งปีหลังจะเติบโตจากครึ่งปีแรกถึง 20-30% เลยอ่ะด้วยโฆษณาจะเข้ามาเต็มมือ แถมให้เป้าไว้ที่ 6 บาท งานนี้โมนิก้าขอให้กำลังใจผู้ถือหุ้นอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ แล้วกันขอให้ราคาไปถึงเป้าหมาย ด้วยสัญญาณเทคนิคกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งค่ะ

เหมือนกับในรายของ DITTO ราคาวิ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ระดับ 28.50 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 137 ล้านบาท งานนี้ “โมนิก้า” เชื่อสนิทใจว่าราคาติดปีกจ่อรับภาษีคาร์บอนที่ยุโรปจะประกาศใช้ในปีนี้ ผลตามมาคือ จะส่งผลเชิงบวกต่อบริษัทฯ เกี่ยวข้องกับปลูกป่าเพื่อขายคาร์บอนเครดิตบิ๊กเบิ้มในไทยอยู่แล้ว ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นราคาหุ้นกระตุกขึ้นก็มีความหวังมองแนวต้านถัดไปบริเวณ 30.25-31.25 บาท ค่อยดูไว้แล้วกันค่ะ

ขณะเดียวกันกับหุ้น AP ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นรอบใหม่ชัดเจนในรูปแบบ V-Shape เพื่อลุ้นไปทดสอบแนวต้านแรก 12-12.70 บาท หลังล่าสุดทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 11.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4.55% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 370 ล้านบาท ส่วนราคาเป้าหมาย 14.40 บาท “โมนิก้า” มีความหวังว่ามีโอกาสขึ้นไปแตะ เพราะดูจากปัจจัยรอบด้านแล้วว่าดียิ่ง โดยเฉพาะไตรมาส 2 นี้เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่อย่างจุก ๆ 16 โครงการทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมเลยจ้า     

ส่วนในรายของหุ้น OTO ราคาหุ้นเขยิบขึ้นดุดันไม่เกรงใจใครทำออลไทม์ไฮใหม่ต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 23 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 9.52% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 290 ล้านบาท เดี๊ยนเลยมองว่าหุ้นตัวนี้เหมาะเล่นได้ทั้งเก็งกำไร และถือยาว เพราะเห็นทิศทางของการวางหมากธุรกิจในครึ่งปีหลัง ว่าจะมีการรุกโรงไฟฟ้าหมุนเวียนเวียดนามก่อนลุย Ev Bike-Carbon Credit เพื่อผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคตเพคะ

ตบท้ายกันที่หุ้นส่วนในรายของหุ้น WAVE ไม่รู้กินดีหมีมาจากไหนคึกคักจนวิ่งชนซิลลิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.20 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 33.33% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 85 ล้านบาท อ่อเห็นว่าจะมีการขยายแฟรนไซส์เพิ่มเพื่อหวังยอดขายเสริมแกร่งผลงานในอนาคตต่อไป พร้อมความหวังว่าปีนี้เทิร์นอะราวด์ อย่างไรก็ดี “โมนิก้า” ขออยากเตือนสตินักลงทุนที่สนใจตัวนี้แล้วคิดจะเข้า ณ ตอนนี้อย่าเพิ่ง เพราะเจ้ามือมักพาไปวันเดียวจอดเจ้าค่ะ

Back to top button