MASTER ศัลยกรรมทำเงิน!

เป็นหนึ่งในไอพีโอไม่กี่ตัวที่ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง สำหรับ MASTER ซึ่งดำเนินธุรกิจสถานพยาบาลด้านความงามที่ให้บริการศัลยกรรมความงามครบวงจร


คุณค่าบริษัท

เป็นหนึ่งในไอพีโอไม่กี่ตัวที่ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง สำหรับหุ้นศัลยกรรมความงาม บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ซึ่งดำเนินธุรกิจสถานพยาบาลด้านความงามที่ให้บริการศัลยกรรมความงามครบวงจร ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” เพราะตั้งแต่วันแรกที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566 ก็ปิดที่ 69 บาท เหนือจอง 50% จากราคาไอพีโอ 46 บาท

ขณะที่ ปัจจุบันซื้อขายกันที่ 83 บาท หรือสูงกว่าไอพีโอไปแล้วกว่า 80.43%

หันไปดูในแง่ผลการดำเนินงานก็ทำได้ดี ล่าสุดเปิดงบไตรมาส 1/2566 ออกมากำไรสุทธิโตกระโดด 30.19% อยู่ที่ 71.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 54.97 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 435.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 237.77 ล้านบาท

ที่ว่าเห็นไตรมาส 1/2566 เติบโตแล้ว ไตรมาส 2/2566 น่าจะเติบโตได้ต่อ รับปัจจัยหนุนจากความมั่นใจของลูกค้าที่กลับมา โดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติ ที่เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเสริมความงามเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 20% ซึ่งมีทั้งกลุ่มลูกค้าชาวอาหรับ ชาวจีน และชาวกัมพูชา เป็นต้น

ประกอบกับ ช่วงก่อนหน้านี้ มีการเพิ่มเตียงผ่าตัด 10 ห้อง ส่งผลให้มีห้องผ่านตัดรวมเป็น 17 ห้อง, เพิ่มเตียงผู้ป่วยอีก 10 เตียง ส่งผลให้มีเตียงผู้ป่วยรวมเป็น 17 เตียง และเพิ่มเตียงพักฟื้นอีก 12 เตียง ส่งผลให้มีเตียงพักฟื้นรวมเป็น 20 เตียง ช่วยหนุนให้รายได้รวมในปีนี้เติบโต 40% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ขณะที่ MASTER ยังมีหน้าตักจากเงินระดมทุนไว้รองรับการขยายธุรกิจ รวมถึงการปิดดีลซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งภายในปี 2566 ตั้งเป้าไว้ 3 ดีล ล่าสุดเพิ่งซื้อหุ้นสัดส่วน 40% ของบริษัท มีแพลนดี จำกัด (มีแพลนดี) ซึ่งดำเนินธุรกิจคลินิกเสริมความงามภายใต้ชื่อ “WIND Clinic” ที่ปัจจุบันมี 2 สาขา ในกรุงเทพฯ และอุบลราชธานี คาดกระบวนการจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2566 ส่วนที่เหลืออีก 2 ดีล จะมีความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง

หนุนให้เป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ว่าในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2566-2568) จะมีรายได้เติบโตที่ระดับ 40% ต่อปี จากการขยายธุรกิจตามแผน โดยยังคงชูจุดแข็งการเป็น Well Tech หรือการรักษาสุขภาพแบบใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการให้บริการลูกค้า ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม

ขณะที่ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า การลงทุนใน Wind Clinic ของ MASTER คาดเริ่มรับรู้กำไรในครึ่งปีหลัง 2566 เป็นต้นไป และจะเห็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก Synergy ร่วมกันในอนาคต โดยสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 20% ของรายได้ และกลุ่มลูกค้าต่างชาติคาดยังสามารถเติบโตได้จากตลาดใหม่ อาทิ อินโดนีเซีย โดยคาดในไตรมาส 2/2566 เติบโตโดดเด่นทั้งจากไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันปีก่อน จากการเริ่มให้บริการ Operation Room ใหม่กว่าเท่าตัว คาดกำไรสุทธิปี 2566-2667 สามารถทำระดับ New High ต่อเนื่องที่ 450 ล้านบาท และ 950 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น MASTER ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 64.44 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.31 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาดหลายเท่า สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 7.52 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.49 เท่า

Back to top button