NEX รถอีวีพุ่งชนกำไร!

NEX สามารถหยุดยั้งภาวะการขาดทุนเรื้อรังได้สักที หลังจากงบงวดปี 2565 พลิกมามีกำไรสุทธิ 208.37 ล้านบาท จากปี 2564 ที่ขาดทุนสุทธิ 106.87 ล้านบาท


คุณค่าบริษัท

ในที่สุดบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ก็สามารถหยุดยั้งภาวะการขาดทุนเรื้อรังได้สักที หลังจากงบงวดปี 2565 พลิกมามีกำไรสุทธิ 208.37 ล้านบาท จากปี 2564 ที่ขาดทุนสุทธิ 106.87 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 6,616.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 688.07 ล้านบาท

ตอกย้ำด้วยงบไตรมาส 2/2566 ที่พลิกมามีกำไรสุทธิ 352.50 ล้านบาท เมื่อทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 59.43 ล้านบาท ถือเป็นการพลิกมามีกำไร 4 ไตรมาสติดต่อกันแล้ว

โดยในไตรมาส 2/2566 NEX มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,753.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,210% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 210.17 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ 2,567.11 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทจำหน่ายรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้เพิ่มขึ้น 487 คัน

ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทพลิกมามีกำไรสุทธิ 504.58 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 122.17 ล้านบาท และมีรายได้รวม 5,964.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,536% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 364.68 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ 5,584.48 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 บริษัทจำหน่ายรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ 1,050 คัน

ขณะที่ ครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโตได้ต่อ จากการทยอยส่งมอบรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2566 อยู่ที่ 25,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ไม่ต่ำกว่า 6,000 คัน ทั้งรถบัสไฟฟ้า รถหัวลากไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า (e-Truck)

นอกจากนี้ ยังจะเปิดตัวโปรดักส์ยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ 5 ประเภท ได้แก่ รถบรรทุกไฟฟ้า 6 ล้อ, รถบรรทุกไฟฟ้า 10 ล้อ, รถตู้ไฟฟ้า, รถกระบะไฟฟ้า และรถทัวร์ที่เป็นไฟฟ้า ซึ่งจะมาช่วยสนับสนุนยอดขายให้รายได้โตขึ้นตามที่ตั้งเป้าไว้

ขณะเดียวกัน เดินหน้าแผนขยายโรงงานประกอบยานยนต์ไฟฟ้าแห่งที่ 2 เนื่องจากในส่วนของโรงงานประกอบยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ บริษัท แอ๊บโชลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) ในพื้นที่อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ปัจจุบันมีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 9,000 คันต่อปี ในขณะที่คำสั่งผลิตเกินขีดความสามารถแล้ว จึงจำเป็นต้องขยายโรงงานแห่งที่ 2 เพิ่ม

โดยหากโรงงานแห่งที่ 2 แล้วเสร็จ คาดในปี 2568 จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตอีก 50,000 คันต่อปี ซึ่งจะทำให้ในปี 2568 บริษัทจะมีกำลังการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารวมประมาณ 60,000 คันต่อปี

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น NEX ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 34.14 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 21.77 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 7.28 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.54 เท่า

X
Back to top button