SAMART กำไรพิเศษหุ้น SAV

ทำเอานักลงทุนเกิดอาการเซ็งเปิดไปตาม ๆ กัน.! เมื่อ SAV ลูกในไส้ของ SAMART เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก แต่ดันปิดเทรดต่ำจอง 19.47% จากไอพีโอ 19.00 บาทซะงั้น


ทำเอานักลงทุนเกิดอาการเซ็งเป็ดไปตาม ๆ กัน..!! เมื่อบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ลูกในไส้ของบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART ที่ถือฤกษ์งามยามดีวานนี้ (26 ก.ย. 2566) เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก แต่ดันปิดเทรดต่ำจอง 19.47% จากไอพีโอ 19.00 บาทซะงั้น…

แหม๊…ช่างแตกต่างจาก 2 รุ่นพี่ไอพีโอก่อนหน้านี้ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรง ไล่มาตั้งแต่หุ้นทำกิฟต์เด็ก บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ปิดเทรดวันแรกเหนือจอง 50% จากราคาไอพีโอ 7 บาท ตามด้วยหุ้นขนส่ง บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO ปิดเทรดวันแรกเหนือจอง 37.86% จากราคาไอพีโอ 1.40 บาท…แต่ SAV ไม่ยักจะเดินรอยตามรุ่นพี่แฮะ..

ที่จริงตัวธุรกิจของ SAV ก็น่าสนใจนะ เป็นผู้ได้รับสัมปทานในการให้บริการสนามบินในประเทศกัมพูชาเพียงเจ้าเดียว ปัจจุบันมีสนามบินภายใต้การบริหารครอบคลุม 6 แห่ง ได้แก่ สนามบินนานาชาติพนมเปญ สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ สนามบินนานาชาติสีหนุ สนามบินพระตะบอง สนามบินเกาะกง และสนามบินสตึงเตรง โดยได้รับสัมปทานจำนวน 49 ปี จะสิ้นสุดสัมปทานในปี 2594 หรือในอีก 28 ปีข้างหน้า

เรียกว่าเครื่องบินทุกลำที่จอดสนามบินในกัมพูชา หรือแค่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการให้กับ SAV ทั้งนั้น

แถมเมื่อหมดสัมปทานก็สามารถต่อได้เรื่อย ๆ อีกนะ ทำให้ SAV มีรายได้ที่มั่นคง..!!

ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า SAV เป็นธุรกิจผูกขาด หรือเสือนอนกิน ไม่ต่างจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ในบ้านเรา ก็คงไม่ผิดน่ะสิ…

ที่สำคัญ โอกาสทางธุรกิจของ SAV ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก…จากการที่กัมพูชาเป็นหนึ่งในหมุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทำให้ปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากเดิมปี 2562 ก่อนเกิดโควิด เคยมีรายได้ระดับ 2,000 ล้านบาท ล่าสุดปี 2565 รายได้รวมอยู่ที่ 1,229 ล้านบาท ก็ยังกลับมาไม่เต็มที่…

นอกจากนี้ ยังเป็นหุ้นปันผลดีอีกต่างหาก จากการเตรียมจะจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตรา 75 สตางค์ต่อหุ้น…ซึ่งยังไม่รู้จะจ่ายวันไหน..? แต่จะจ่ายแน่ ๆ หลังเข้าเทรดภายใน 30 วัน

เอาหน่า แม้หุ้นไอพีโอจะต่ำจอง (จากภาวะตลาดที่ไม่ค่อยสู้ดี) แต่ก็ถือเป็นหุ้นเซฟตี้…มีปันผลปลอบใจอะนะ..!!

แต่มันไม่จบแค่นั้นน่ะสิ มีอีกช็อตที่ถูกหยิบมาซุบซิบนินทาในเรื่องโครงสร้างไอพีโอของ SAV เพราะเอาเข้าจริง หุ้นไอพีโอที่จะเสนอขายจำนวน 166 ล้านหุ้นนั้น เป็นหุ้นเก่าของบริษัท สามารถ อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (SIH) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SAMART ปาไป 102 ล้านหุ้นเลยนะ

เหลือหุ้นเพิ่มทุนใหม่ที่จะขายไอพีโอจริง ๆ แค่ 64 ล้านหุ้น…

นั่นหมายถึง เงินจากการขายไอพีโอทั้งหมด 3,154 ล้านบาท จะเข้าบริษัทแค่ 1,216 ล้านบาทเท่านั้น ในขณะที่เงินก้อนใหญ่ 1,938 ล้านบาท จะเข้ากระเป๋า SIH บริษัทลูกของ SAMART

เท่ากับว่า การระดมทุนของ SAV ครั้งนี้…SAMART จะได้ถึง 2 เด้งด้วยกัน…เด้งแรก เงินก้อนใหญ่จากการเอาหุ้นเก่าออกมาขาย ซึ่งฟันกำไรไป 1,887 ล้านบาท เนื่องจาก SIH มีต้นทุนหุ้น SAV เพียง 0.50 บาท (คำนวณจากราคาพาร์) ทำให้มีกำไรส่วนต่างจากราคาหุ้นครั้งนี้ 18.50 บาทต่อหุ้น

ส่วนจะบันทึกกำไรพิเศษในไตรมาสไหนไม่รู้…แต่ได้แน่ ๆ ชัวร์ป๊าบบบ

เด้งที่สอง จากเงินปันผล โดย SAMART ถือหุ้นผ่าน 2 บริษัทลูก รวมกันราว 473.99 ล้านหุ้น ก็รับเงินปันผลไป 355.49 ล้านบาท

ส่วนที่เห็นหุ้นหลุดจองก็น่าจะเกิดจากภาวะตลาดที่ไม่ดีละมั้ง คงไม่ได้เกิดจากปัจจัยข้างต้นหรอก..!?? เชื่อสิ ๆ ๆ ๆ

…อิ อิ อิ…

Back to top button