พาราสาวะถี

ได้เห็นญัตติซักฟอกรัฐบาลของพวกลากตั้ง 98 คนแล้ว ต้องบอกว่า ไม่แปลกใจที่คนส่วนใหญ่จะเกิดความสงสัยว่าทำไมยุคของรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจจึงไม่ดำเนินการกันแบบนี้บ้าง


ได้เห็นญัตติซักฟอกรัฐบาลของพวกลากตั้ง 98 คนแล้ว ต้องบอกว่า ไม่แปลกใจที่คนส่วนใหญ่จะเกิดความสงสัยว่าทำไมยุคของรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจจึงไม่ดำเนินการกันแบบนี้บ้าง ทั้งที่รัฐบาลเศรษฐาเพิ่งเข้ามาบริหารงานได้แค่ 4 เดือนกว่าก็ถูกเล่นงานแล้ว ญัตติดังกล่าวมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 153

สำหรับเนื้อหาที่จะอภิปรายนั้นแบ่งเป็น 7 หัวข้อ พอแยกย่อยไปแต่ละหัวข้อก็จะเห็นว่า แทนที่จะถามกับรัฐบาลปัจจุบัน พวกลากตั้งน่าจะตั้งคำถามกับรัฐบาลก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก เรื่องแรก ปัญหาด้านเศรษฐกิจของชาติและปัญหาปากท้องของประชาชน มีการระบุในญัตติว่า ไม่ว่าจะเป็นแนวทางในการสร้างงานสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนที่ยั่งยืน การทำให้ประชาชนมีรายได้และมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และเป็นการแก้ปัญหาความยากจน รัฐบาลมีแนวทางที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมอย่างไร

รัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจที่มีบุญคุณคุ้มกะลาหัวพวกลากตั้งมาก่อนหน้านั้น คำถามง่าย ๆ คือ ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีอย่างนั้นหรือ ปัญหาเศรษฐกิจที่ระบุในญัตติไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยใช่หรือไม่ เพิ่งมาเกิดตอนที่รัฐบาลนี้ทำงานได้เพียงแค่ 4 เดือนอย่างนั้นหรือ แค่จั่วหัวญัตติแบบนี้ประชาชนก็มองเห็นธาตุแท้ของพวกที่จะอภิปรายได้แล้วว่า ต้องการอะไร เป้าหมายของเรื่องนี้คือต้องการที่จะอภิปรายโจมตีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเสียมากกว่า

ที่น่าหัวร่อคือ ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ที่พวกลากตั้งตั้งญัตติถามรัฐบาลเศรษฐาว่า ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามคำพิพากษาที่สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ช่วยพวกพ้องหาผลประโยชน์ส่วนตัว สร้างมาตรฐานในกระบวนการที่บิดเบี้ยว ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ไม่เท่าเทียม กรณีนี้ก็มีแค่เรื่องเดียวคือ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น

หากถามย้อนกลับไปแล้วคิดว่ากระบวนการบังคับใช้กฎหมายเทียบเคียงระหว่างยุครัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจกับยุคนี้ ยุคไหนที่ควรจะถูกยื่นซักฟอกมากกว่ากัน ไม่ต้องพูดถึงการปฏิบัติต่อผู้ถูกดำเนินคดีเปรียบเทียบชัดระหว่างม็อบหนุนกับม็อบต้านเผด็จการสืบทอดอำนาจ อย่างที่บอกว่าเมื่อมองไปยังรายชื่อและเห็นหน้าพวกขาประจำก็รู้เช่นเห็นชาติกันแล้วว่าต้องการอะไร ยิ่งในคดีของทักษิณยิ่งไปกันใหญ่เพราะเห็นกันอยู่แล้วตั้งแต่การรับโทษ การได้รับการอภัยโทษ ลดโทษ น่าจะเป็นการถามผิดฝาผิดตัว เนื่องจากกระบวนการทั้งหมดดำเนินการโดยรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจ

กรณีทักษิณพวกลากตั้งด้วยกันอย่าง วันชัย สอนศิริ ได้โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชวนให้คิด พฤติกรรมของพวกที่พากันร้องแรกแหกกระเชอต่อประเด็นของอดีตนายกรัฐมนตรีที่พักรักษาตัวอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจนั้น เกิดมาจากคำว่า “อคติ” ล้วน ๆ ซึ่งมิใช่เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้อง แม้จะทำตัวเป็นเจ้าหลักการ ตะโกนเรียกร้องหาความเป็นธรรม แต่แท้ที่จริงแล้วจิตใจฝังไปด้วยอคติ รักก็ว่าดี เกลียดก็ว่าชั่ว บ้านเมืองจึงไม่สามารถก้าวข้ามความขัดแย้ง ความปรองดองสมานฉันท์ได้ก็เพราะอคติ

กรณีของทักษิณมาจากอคติคือความโกรธ ความเกลียด ความชิงชังที่ฝังอยู่ในกระดูก ไม่ยอมปล่อยวาง แล้วก็ทำตัวเป็นเจ้าหลักการแห่งกระบวนการยุติธรรม คนประเภทนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความถูกต้องหรือมีหลักการแต่อย่างใด ใครที่เป็นพวกของตัวเองและตัวเองชอบ แม้จะทำไม่ถูกต้อง ผิดหลักการทั้งหมด จะเผด็จการเบ็ดเสร็จ ไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ก็เห็นว่าถูกและเห็นว่าใช่ ไม่ปริปากสักคำ แม้คดีที่ศาลตัดสินเป็นพวกตนและถูกใจก็ว่าใช่

แต่ถ้าไม่ใช่พวกตน ศาลตัดสินมาไม่ถูกใจก็ว่าไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ได้มีหลักการอะไร มาจากจิตใจที่โกรธเกลียด อาฆาตมาดร้าย ประเภทไม่เผาผีอาฆาต 7 ชั่วโคตร พวกนี้ถือเป็นอุปสรรคต่อการปรองดองสมานฉันท์ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับวันชัยที่ว่า ความรักความสามัคคีเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ทั่วโลกเรียกร้องเรื่องนี้ เรื่องอื่นถือเป็นเรื่องเล็ก ประเทศไทยเดินมาถึงวันนี้ที่มีประชาธิปไตยจะเต็มใบ ความรักความสามัคคี ความปรองดองสมานฉันท์กำลังจะเกิดขึ้น ควรปล่อยวาง ทำจิตใจให้สงบ ลด ละ เลิกกันเสียบ้าง

ขณะที่ปัญหาอื่นที่ยกเป็นข้ออ้างในการยื่นญัตติของพวกลากตั้งไม่ว่าจะเป็น การทุจริตคอร์รัปชัน ยาเสพติด การพนัน ปัญหาด้านพลังงาน ปัญหาด้านการศึกษาและสังคม ปัญหาด้านการต่างประเทศ การท่องเที่ยว ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปัญหาการดำเนินการปฏิรูปประเทศ และการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ถ้าสแกนกันอย่างละเอียดแล้ว ก็จะพบว่าต้นตอที่ทำให้เกิดและไม่ได้รับการแก้ไขจนรกเรื้อตกทอดมาถึงรัฐบาลเศรษฐาที่จะต้องเร่งทำทั้งหมดมันก็มาจากรัฐบาลเผด็จการและเผด็จการสืบทอดอำนาจทั้งสิ้น

ทำให้ไม่รู้ว่าการอภิปรายครั้งนี้ จะเป็นการอภิปรายรัฐบาลใหม่เพื่อให้มีการชี้ให้เห็นความผิดพลาด ละเลยของรัฐบาลที่ผ่านมาหรือไม่ หวังจะสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงทิ้งทวน ระวังจะกลายเป็นการประจานทำให้เห็นผลงานชิ้นโบว์ดำของอดีตรัฐบาลที่อุ้มสม มีบุญคุณต่อพวกตัวเองมาไปเสียฉิบ ขณะที่ เศรษฐา ทวีสิน ประกาศไว้แล้ว ไม่ยี่หระพร้อมที่จะไปชี้แจง ตอบทุกข้อสงสัย ซึ่งกว่าจะได้อภิปรายกันน่าจะเป็นช่วงเดือนมีนาคม ถึงเวลานั้นที่กล่าวหากันไว้หลายเรื่องอาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว โดยเฉพาะกรณีของทักษิณ

ประเด็นนี้พวกลากตั้งควรจะใส่เกียร์ถอยเสียด้วยซ้ำ เพราะนิด้าโพลเพิ่งสำรวจความเห็นประชาชนล่าสุด กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ชี้ว่า เรื่องของทักษิณไม่ส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของรัฐบาลเลย และส่วนใหญ่อีกเช่นกันมองว่า กรณีนี้จะไม่นำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่แน่นอน หรือหากจะนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่ก็จะไม่ใหญ่โตเหมือนในอดีต น่าจะตอกย้ำว่า คนส่วนใหญ่ได้ก้าวข้ามทักษิณไปแล้ว มีเพียงพวกสุดโต่งที่กลัวผีทักษิณเท่านั้นที่ยังหลอนและหลอกตัวเองอยู่ตลอดเวลา

Back to top button