ฝรั่งยังขายสนุกสนาน

วานนี้ (24 ม.ค.) ในช่วงที่ดัชนีหุ้นไทยเด้งขึ้นมาในช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย

มีการคาดกันว่านักลงทุนต่างชาติอาจจะกลับมาซื้อ

แต่ส่วนตัวยังไม่ถึงกับเชื่อ 100%

เพราะกำลังสงสัยว่า กรณี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” พ้นบ่วงเรื่องถือหุ้น ITV นั้น

แล้วเป็นเซนติเมนต์เชิงบวกกับหุ้นไทยดีดขึ้นมาบวก 324.65 จุด ปิด 1,381.19 จุดนั้น

ต่างชาติน่าจะไม่ค่อยให้น้ำหนักกับปัจจัยนี้เท่าไหร่นะ

เพราะเขาน่าจะดูเรื่อง Fundamental เป็นหลัก

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

เพราะวานนี้ต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องอีก 570 ล้านบาท

ทำให้นับจากต้นปี 2567 มาจนถึงวานนี้ (24 ม.ค.) ต่างชาติขายหุ้นไทยรวมแล้วกว่า 23,868 ล้านบาท

ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า ต่างชาติจะขายหุ้นไทยอีกมากแค่ไหน

ส่วนที่มีการประเมินกัน น่าจะมาจากการดูตัวเลขหรือสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยในปัจจุบันของต่างชาติ ว่าอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำแล้ว และรวมถึงดูจากสถิติต่าง ๆ ของนักลงทุนต่างชาติ ในอดีตเข้ามาประกอบ

อีกจุดหนึ่งที่มักจะกล่าวอ้างถึงกันคือ “ต้นทุน” ของต่างชาติที่เข้ามานั้น ดัชนีอยู่ประมาณเท่าไหร่

สมมุติว่า ต่างชาติยังขายหุ้นไทยต่อเนื่องไปอีก

คำถามต่อมาคือ แล้วบรรดานักลงทุนสถาบัน (กองทุน) บวกกับรายย่อย จะมีแรงรับ หรือเข้าซื้อหุ้นได้อีกมากแค่ไหนเหมือนกับวานนี้ที่จับมือเข้าซื้อหุ้นจนช่วยดันดัชนีบวกขึ้นมาได้ 24.65 จุด

ปรากฏการณ์แบบนี้ไม่ค่อยเจอบ่อยนัก

ดังนั้น แนวโน้มวันนี้ และวันถัดไป ๆ อาจจะต้องระวัง

ทั้งจากแรงขายทำกำไร และแรงขายจากนักลงทุนที่ติดหุ้นอยู่ที่สบโอกาสเมื่อดัชนีดีดกลับแล้วขายออก คือหนีไปก่อน หรือตัดขาดทุนให้น้อยสุด และแรงขายของต่างชาติ

จึงมีความเป็นไปได้สูงที่วันนี้ดัชนีอาจจะไซด์เวย์

เว้นแต่กองทุนยังมีเงินบนหน้าตัก หรือเงินสดในมือค่อนข้างเยอะ และพร้อมรับกับแรงขายของต่างชาติ

แนวต้านจิตวิทยายังคงอยู่ที่ 1,400 จุด

แต่ทางเทคนิคดัชนีน่าจะไซด์เวย์ในกรอบ 1,270-1390 จุด

แม้บรรดานักวิเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ ต่างจะบอกว่า ตลาดหุ้นไทย Undervalue ค่อนข้างมาก

หรือมีราคาถูกนั่นแหละ

ทว่า หากต่างชาติยังไม่หันหัวเรือกลับ

เราก็คงต้องเผชิญกับการค่อย ๆ ซึมลงของดัชนีแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

คำแนะนำของนักวิเคราะห์จึงพยายามให้หันไปหาหุ้นปันผล ที่มีทิศทางการเติบโตดี และราคามีอัพไซด์

และเป็นหุ้นที่ต่างชาติไม่ค่อยเข้ามาเล่นมากนัก

สรุป ตลาดหุ้นไทยวานนี้น่าจะรับเซนติเมนต์เชิงบวกในระยะสั้น จากปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ เช่น ทางการจีนอัดเงินเข้าพยุงตลาดหุ้น และทิศทางหุ้นเอเชีย

ยิ่งวานนี้ SCC หรือ ปูนซิเมนต์ไทย รายงานงบการเงินงวดไตรมาส 4/2566

กำไรแม้จะเป็นไปตามคาด

แต่เท่าที่ดูในเบื้องต้น เป็นกำไรพิเศษ ขณะที่การจ่ายเงินปันผล 3.50 บาท

ก็ไม่ได้มีอะไรน่าเซอร์ไพรส์