เฟดยาหอม

หลายครั้งที่ตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นด้วย เฟดลดดอกเบี้ยทีไร! เดี๊ยนมักเกิดอาการหัวใจเต้นแรง และเนื้อตัวสั่นสะท้านเป็นประจำ


หลายครั้งที่ตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นด้วย เฟดลดดอกเบี้ยทีไร! เดี๊ยนมักเกิดอาการหัวใจเต้นแรง และเนื้อตัวสั่นสะท้านเป็นประจำ เพราะยาหอมชนิดนี้เหมือนยาเลี้ยงไข้ เพื่อให้นักลงทุนมีความหวังไปวัน ๆ และสุดท้ายก็ต้องพบกับความผิดหวังเป็นประจำ ซึ่งเห็นได้จากการบอกว่า เดี๋ยวจะลดดอกเบี้ยในครั้งหน้า พอถัดมาก็บอกจะลดในครั้งหน้า เลยไม่รู้ว่า ครั้งหน้าจะเป็นตอนไหนกันแน่..อิอิอิ

ถึงกระนั้นนักลงทุนก็มองว่า การคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ก็เป็นสัญญาณดีสำหรับตลาดหุ้น จึงมีแรงซื้อไหลเข้ามาไม่อั้น จนดันดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,387.62 จุด บวกไป 14.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.36 หมื่นล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นหนังม้วนเดิมที่ชอบพาคนไปเชือด และแมงเม่ารายไหนที่ออกของไม่ทัน มักมีบาดแผลเหวะหวะตามร่างกาย เดี๊ยนจึงไม่มีอารมณ์คล้อยตามสักเท่าไหร่น่ะซี

สิ่งที่คิดได้ง่าย ๆ ก็คือ ทฤษฎีที่ร่ำเรียนมาเป็นเวลานานคือ “สินทรัพย์เสี่ยง” กับ “สินทรัพย์ปลอดภัย” มักวิ่งสวนทางกันเป็นประจำ แต่เหตุไฉนราคาทองในตลาดโลกกลับอยู่ในระดับนิวไฮ และตลาดหุ้นใหญ่ ๆ ก็ยังอยู่ในระดับนิวไฮ อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยในโลกก็อยู่ในระดับนิวไฮ หรือแม้กระทั่งราคาบิตคอยน์ก็พุ่งนิวไฮ “โมนิก้า” เลยไม่รู้ว่า เราอยู่ในสถานการณ์ไหนกันแน่! เพราะสินทรัพย์ดังกล่าวอยู่ในระดับสูงกันหมดเจ้าค่ะ

ขนาดเบอร์ใหญ่อิเล็กทรอนิกส์อย่าง DELTA ยังทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 72.25 บาท บวกไป 5.50 บาท  หรือขึ้นไป 8.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.92 พันล้านบาท พร้อมกับมีการพูดถึงยอดส่งออกไปยังไต้หวัน กับเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น และยังได้แรงหนุนจากบรรยากาศที่เป็นใจสุด ๆ ราคาหุ้นถึงลิงโลดในรอบเดือน แต่ก็มีคำถามตามหลังว่า สถานการณ์แบบนี้จะยาวแค่ไหน? เพราะที่ผ่านมาเกมมักจบเร็วกว่ากำหนดพะย่ะค่ะ

ตัวอย่างถัดมาที่สะท้อนภาพความย้อนแย้งของประเด็นข้างต้นได้ดีสุดก็คือ CPALL หลังถูกรินขายต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน จนล่าสุดยืนปิดที่ระดับ 54.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.19 พันล้านบาท และมีสิทธิ์ที่จะไหลลงไปที่ฐานเก่าบริเวณ 51 บาทแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่นักเล่นต้องคิดมากเป็นพิเศษว่า ตกลงตอนนี้เราเล่นหุ้นบนสตอรี่อะไรกันแน่? และสตอรี่ที่ว่าจะยาวแค่ไหน? ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากจะเอ่ยถึงการฟื้นตัวต่อเนื่องของราคาหุ้น SAWAD ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 41.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 534 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 1 เดือน และเป็นการยืนปิดบริเวณไฮเดิมกับครั้งก่อน 42 บาทแบบนี้ มันเป็นเกมที่เดิมพันความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันอย่างแท้ทรู ซึ่งออกได้ทั้งน่า “ขึ้นต่อ” กับ “ย้อนลง” นะออเจ้า

ส่วนม้ามืดอย่างหุ้น MBK กระชากพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ระดับ 18.20 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 15.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 591 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้นอนสงบนิ่งไม่ไหวติง จนกระทั่งมีเจ้าชายอย่าง “สยามพิวรรธน์” ที่ทางบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 48.71% นั้นเข้ามาชุบชีวิตให้กระชุ่มกระชวยอีกครั้ง เพราะข่าวว่าจะเสนอขาย IPO ครั้งใหญ่ที่สุดของไทยในรอบ 2 ปี ตั้งเป้าเงินระดมทุน 1.7-2.7 หมื่นล้านบาท เตรียมเข้าตลาดปลายปีนี้ งานนี้โมนิก้ามองว่าน่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้ราคากระเตื้องดีเป็นแน่เจ้าค่ะ!!!

ในเมื่อชอบลุ้นกันมัน ๆ ต้องมองไปที่น้องแน็ท NAT หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 6.80 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 21.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 399 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการกลับมาเล่นใหม่ หลังจากโดนเขย่าอย่างหนัก จนราคาหุ้นลงมาทำ all time low ที่ระดับ 5.60 บาทไปเมื่อวันก่อน เดี๊ยนถึงมองว่า นี่เป็นหุ้นทางเลือกสำหรับคนที่รักสนุก และชอบอะไรเสียว ๆ…อิอิอิ

ตบท้ายกันที่การเข้ามาของ “วิรัช” ซึ่งมานั่งเป็นซีอีโอคนใหม่ของหุ้น SABUY พร้อมกับประกาศสานต่อภารกิจของ “ชูเกียรติ” มันกลายเป็นเรื่องที่ตลกหกเก้ามากในหมู่ขาเม้าท์ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันมีแต่ปัญหาที่ทับถมเยอะแยะไปหมด รวมทั้งการเดินเกมธุรกิจแบบปรปักษ์แบบสุดซอยในช่วงที่ผ่านมา..งานหินนะจะบอกให้

Back to top button