พาราสาวะถี

วันนี้ (10 เมษายน) ก่อนจะเข้าสู่โหมดหยุดยาวช่วงสงกรานต์ เศรษฐา ทวีสิน จะนั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท


วันนี้ (10 เมษายน) ก่อนจะเข้าสู่โหมดหยุดยาวช่วงสงกรานต์ เศรษฐา ทวีสิน จะนั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อเคาะเดินหน้าโครงการพร้อมชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด โดยนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อวานนี้ขออย่าคาดเดาต่าง ๆ นานา รอฟังความชัดเจนทั้งหมดดีกว่า มิเช่นนั้น จะสร้างความสับสน โดยเฉพาะเรื่องที่มาของแหล่งเงินซึ่งจะใช้ดำเนินโครงการ

อย่างที่รู้กันว่า เรื่องเป้าหมายโครงการ วิธีการดำเนินการ ไม่ใช่สิ่งที่คนอยากรู้ และเชื่อว่าภายใต้เจตนาดีที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศย่อมเกิดผลในทางที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าโครงการจะสะดุดหรือเกิดปัญหาหรือไม่คือ แหล่งเงินที่จะใช้ดำเนินการ จากที่ก่อนหน้าจะออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท หลังจากที่เกิดเสียงทักท้วงทั่วสารทิศ และรัฐบาลดึงจังหวะมาเพื่อหาแนวทางที่จะไม่ถูกร้องเรียนหรือเตะตัดขาจากพวกจ้องเล่นงาน

น่าสนใจว่า หากไม่ออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน รัฐบาลจะใช้เงินจากไหน นักข่าวถามเศรษฐาว่าจะใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสินใช่หรือไม่ คำตอบที่ได้คือ “ใครพูดครับ” ก่อนที่จะขอร้องว่าให้อดใจรอวันนี้จะได้มีคำตอบที่ชัดเจน แนวโน้มของแหล่งเงินนั้น คงไม่หนีไปจากการใช้เงินงบประมาณปี 2568 ส่วนหนึ่ง ฟังจาก พิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกฯ ในฐานะมือกฎหมายของรัฐบาล ก็บอกว่าอีกส่วนจะมาจาก แหล่งอื่นที่เปลี่ยนได้ตามสถานการณ์

อย่าลืมว่าโครงการนี้ ทักษิณ ชินวัตร ได้พูดไว้ในการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทยว่า “โคตรใหม่เลยไม่ใช่ใหม่ธรรมดา” นั่นหมายความว่า ในมุมมองของอดีตนายกฯ ที่เคยได้รับความนิยมสูงสุด เห็นว่าการเดินหน้าโครงการนี้ของเศรษฐาและพรรคเพื่อไทย จะเป็นการเปลี่ยนแปลงตามโลกและสังคมยุคใหม่ ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น ซึ่งการปรับตัวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โลกกำลังหมุนไปเปลี่ยนไป ทั้งนักการเมือง ภาครัฐ และประชาชนต้องปรับตัวเปลี่ยนตามให้ทัน

เอาเป็นว่ารอฟังความชัดเจนจากการแถลงกันทีเดียว แต่การที่เศรษฐาและรัฐบาลได้ที่ปรึกษาคนสำคัญอย่างทักษิณ จึงน่าจะทำให้มีช่องทางในการหาเงินและใช้จ่ายเงินงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางทีมที่ปรึกษานายกฯ ก็ย้ำว่า รัฐบาลมีทีเด็ดในการบริหารจัดการใช้จ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ คงต้องเป็นเช่นนั้น เพราะมีฝ่ายจ้องที่จะจับผิดกันมาตั้งแต่ยังไม่เริ่มโครงการ ดังนั้น หากมีอะไรที่เป็นช่องโหว่แค่นิดเดียว มีสิทธิ์ถูกเล่นงานทันที

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากช่วงเวลาที่จะประกาศแล้ว ต้องยอมรับกันว่า จะมีการเดินหน้าโครงการกันอย่างแน่นอน เป็นข่าวดีส่งให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ได้อย่างมีความสุขกันถ้วนหน้า แต่ดูเหมือนว่าสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเป้าหมายของนักเดินทางทุกปีช่วงปีใหม่ไทยอย่างภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ กำลังเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างหนัก จนต้องมีการระดมรัฐมนตรีหลายกระทรวงไปบัญชาการแก้ปัญหากันอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ เชื่อว่าจากแพลนของนักท่องเที่ยวที่ได้วางกันไว้ น่าจะมีการเปลี่ยนเป้าหมายกันน้อย อยู่ที่ว่ามาตรการในการแก้ไขปัญหาของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะลดปัญหากันได้มากน้อยขนาดไหน ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า สั่งกรมฝนหลวงขึ้นปฏิบัติการดัดแปลงสภาพอากาศทั้งหมดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะเชียงใหม่ เชียงราย โดยการขึ้นบินเอาความเย็นไปลดอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศข้างบน ซึ่งจะช่วยลดความหนาแน่นของฝุ่นลง 50%

หากทำได้ตามแผนก็หวังว่าสถานการณ์ฝุ่นในเมืองท่องเที่ยวสำคัญช่วงสงกรานต์น่าจะทุเลาเบาบางลง ต้องไม่ลืมด้วยว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ทักษิณจะบินปิ๊กบ้านอีกรอบ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะต้องระดมสรรพกำลังในการแก้ปัญหา เพราะการไปของอดีตนายกฯ ย่อมมีนักการเมืองทั้งระดับรัฐมนตรี และ สส.แห่ไปรอต้อนรับ พร้อมรดน้ำขอพรกันขบวนใหญ่ ซึ่งสภาพความเป็นจริงในพื้นที่หากได้สัมผัสจะพบว่าช่วงเช้าบรรยากาศค่อนข้างจะสดใส แต่พอเริ่มสายไปตลอดวันปริมาณฝุ่นจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์

ขนาดที่ว่านั่งอยู่ในรถยนต์เปิดแอร์แต่ไม่ใส่หน้ากาก สามารถสัมผัสถึงละอองฝุ่นที่ปลิวเข้าจมูกได้ นี่ขนาดมีตัวกรองอากาศระดับหนึ่งแล้วยังเอาไม่อยู่ ไม่ต้องพูดถึงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง จึงไม่แปลกที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จะยอมรับว่า ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก จึงต้องเพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวัง ตรวจติดตาม และรักษาพยาบาลให้เข้มข้นขึ้น ถือเป็นอีกปัญหาที่เศรษฐาจะต้องเร่งแก้ไขเพื่อไม่ให้กระทบความเชื่อมั่นรัฐบาล

สำหรับทักษิณกับการเดินทางกลับเชียงใหม่นั้น ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเป็นวันไหน ที่แน่ ๆ วันนี้คงต้องเดินทางไปฟังคำสั่งของอัยการสูงสุดในคดีความผิดตามมาตรา 112 ก่อน น่าสนใจว่า บทสรุปจะออกมาอย่างไร เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร หากอัยการสั่งไม่ฟ้อง ทุกอย่างก็จบ ตำรวจไม่สามารถที่จะทำเรื่องแย้งจนนำไปสู่การยื่นฟ้องเองได้เหมือนคดีอื่นที่เกิดขึ้นในประเทศ ทำให้คนส่วนใหญ่มองแนวโน้มผลของคดีว่าจะออกมาอย่างไร 

ขณะเดียวกัน ขึ้นชื่อว่าทักษิณไม่ว่าจะขยับตัวอย่างไร ไม่พ้นที่จะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ เหมือนล่าสุดที่ แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวโพสต์ภาพอดีตนายกฯ ผู้เป็นพ่อลงสระเล่นน้ำกับหลานโดยมีการยกดัมเบลด้วย ก็ถูกนำไปขยายผลโจมตีพร้อมตั้งคำถามว่าที่อ้างการเจ็บป่วยระหว่างรับโทษนั้นจริงหรือไม่ ทำไมแข็งแรงถึงขนาดนั้น ทั้งที่ความจริงภาพที่เห็นคือดัมเบลฟองน้ำ ใช้ในการฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อ เป็นธรรมดาคนเกลียดย่อมหาเหตุเล่นงานได้ตลอดเวลา ไม่ต้องถามหาเหตุหาผล ส่วนเรื่องป่วยหนักจนต้องนอนโรงพยาบาลยาวจนได้รับการพักโทษ คนที่ไม่โลกสวยย่อมยอมรับและเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร

Back to top button