UVAN ต้นน้ำหดกำไรหาย

น่าแปลก..!! หลังจากเปิดงบโค้งแรกปี 67 ออกมา หุ้นกลุ่มปาล์มน้ำมันหลาย ๆ ตัววิ่งกันโครม ๆ แต่หุ้น UVAN กลับปักหัวลงวิ่งสวนทางชาวบ้านชาวช่องเค้า


น่าแปลก..!! หลังจากเปิดงบโค้งแรกปี 2567 ออกมา หุ้นกลุ่มปาล์มน้ำมันหลาย ๆ ตัววิ่งกันโครม ๆ แต่หุ้นบริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ UVAN กลับปักหัวลงวิ่งสวนทางชาวบ้านชาวช่องเค้า…เพิ่งจะโงหัวได้ก็ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว…

เอ๊ะ..เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นปาล์มน้ำมันตัวนี้เนี่ย..!?

พอไปสืบเสาะหาต้นตอ…ที่แท้งบไม่ดี กำไรในไตรมาส 1/2567 หายไปกว่าครึ่ง เหลือแค่ 142.82 ล้านบาท ลดลง 64.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เคยทำได้ 400.77 ล้านบาท

ก็เลยทำให้นักลงทุนพร้อมใจกันร้องเพลง ถอยดีกว่า…ไม่เอาดีกว่า จากหุ้น UVAN..!!

ส่วนสาเหตุที่ทำให้กำไรของ UVAN หายวับไปกับตาเกินกว่าครึ่งนั้น เกิดจาก 3-4 ปัจจัยด้วยกัน…อันดับแรก ปริมาณผลปาล์มสดส่งเข้าผลิตใน 5 โรงงานในประเทศไทยลดลง 21.8% จากปีที่แล้ว ซึ่งในปีที่แล้วช่วงไตรมาสที่หนึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตสูงสุดของปี แต่จากข้อมูลในอดีตช่วงที่ผลผลิตสูงสุดจะเป็นช่วงไตรมาสที่สอง

ถัดมาแม้ราคาเฉลี่ยน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 7.1% แต่ราคารับซื้อผลปาล์มสดเพิ่มขึ้น 12% เนื่องจากผลผลิตลดลง ประกอบกับการแข่งขันกับโรงงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรจากการบีบปาล์มลดลง

ด้านผลผลิตที่ลดลง ทำให้ปริมาณขายน้ำมันปาล์มลดลง 35.1% ขณะที่โอกาสในการส่งออกมีค่อนข้างน้อย ทำให้บริษัทลดการซื้อน้ำมันจากบุคคลภายนอกเพื่อการส่งออก

แต่ที่เป็นไฮไลต์และน่าตกใจ เห็นจะเป็นพื้นที่สวนปาล์ม ซึ่งเป็นพื้นที่สัมปทานจากกรมป่าไม้จำนวน 8,250 ไร่ หมดอายุสัมปทาน ส่งผลให้สวนของบริษัทมีกำไรลดลง 42%

ก็ชัดเจนว่า พอหมดอายุสัมปทาน…กำไรของ UVAN ก็ลดฮวบทันที..!!

ทำให้จากกำไรที่เคยบานฉ่ำ…โดยปี 2563 มีกำไรสุทธิ 329.12 ล้านบาท จากรายได้รวม 5,926.85 ล้านบาท ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 839.27 ล้านบาท จากรายได้รวม 11,845.51 ล้านบาท ส่วนปี 2565 มีกำไรสุทธิ 1,429.76 ล้านบาท จากรายได้รวม 18,610.08 ล้านบาท และปี 2566 กำไรสุทธิ 936.00 ล้านบาท จากรายได้รวม 14,201.61 ล้านบาท

ต่อจากนี้คงไม่เฟื่องฟูเหมือนในอดีตแล้วล่ะ หรือจนกว่า UVAN จะแก้ปัญหาชีวิต…หาอย่างอื่นมาทดแทนได้…

กลายเป็นโจทย์หินที่ผู้บริหาร UVAN ต้องตีลังกาขบคิดว่าจะหาทางออกยังไง..??

ที่จริงธุรกิจของ UVAN ซึ่งมีตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ มีทั้งสวนปลูกปาล์ม โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และผลิตภัณฑ์จากปาล์ม…แต่ตอนนี้ต้นน้ำจะหายไปกว่า 8,000 ไร่ ซึ่งไม่น้อยนะ พอหายไป ผลกระทบที่ตามมาจะมีปัญหาเรื่องซัพพลายเชน ในแง่ของวัตถุดิบจะหายไป…ก็น่าคิด UVAN จะไปหาจากแหล่งไหนมาชดเชย แล้วช่วงที่ปาล์มราคาสูง ๆ อย่างนี้ จะเป็นการเสียโอกาสทางธุรกิจหรือเปล่า..??

คงเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่ผู้บริหารต้องแก้โดยเร็ว…

ขณะที่จุดเด่นของ UVAN เป็นหุ้นที่ปันผลดี ย้อนไปดูช่วง 3 ปีย้อนหลัง ดิวิเดนด์ยีลด์เฉลี่ยอยู่ที่ 10% ต่อปี ล่าสุดก็อยู่ที่ 8.98% ด้านอัตรากำไรก็ไม่ขี้เหร่ อยู่ที่ระดับ 7-8% ส่วน P/E ก็ไม่สูง อยู่ที่ 11.58 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ระดับ 18.07 เท่า ขณะที่ ROA/ROE ก็อยู่ระดับสูง

สิ่งที่ขาดมีแค่สภาพคล่องที่อยู่ระดับต่ำ ดังนั้นจะหวังแคปปิตอลเกน อาจจะยาก แต่จะได้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่อยู่ระดับสูงไปแทน ก็พอกล้อมแกล้มอยู่หนา…

แต่ถ้าใครจะเห็นต่างจากนี้ ก็ไม่ว่ากัน…นานาจิตตัง..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button