AGE เริ่มดีขึ้น!!

ปี 2559 บริษัท AGE เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ หลังบริษัทเน้นกลยุทธ์ในการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากคลังสินค้าและการขนส่งและใช้ความได้เปรียบในเรื่องโลเคชั่นของท่าเรือ และคลังสินค้าที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้มีความได้เปรียบทางด้านต้นทุนการขนส่ง ซึ่งดูได้จากปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน คือกลับมามีกำไรอย่างกระฉูด


–คุณค่าบริษัท–

 

ปี 2559 บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ หลังบริษัทเน้นกลยุทธ์ในการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากคลังสินค้าและการขนส่งและใช้ความได้เปรียบในเรื่องโลเคชั่นของท่าเรือ และคลังสินค้าที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้มีความได้เปรียบทางด้านต้นทุนการขนส่ง ซึ่งดูได้จากปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน คือกลับมามีกำไรอย่างกระฉูด

โดยเฉพาะผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 แม้ว่ารายได้รวมทำได้เพียง 1,279.52 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,605.72 ล้านบาท แต่บริษัทมีกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีนโยบายการขายที่ให้ความสำคัญในการรักษาอัตรากำไรมากกว่ายอดขาย ตลอดจน บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนให้ลดลงได้ ทั้งด้านการจัดหาวัตถุดิบและต้นทุนด้านโลจิสติกส์ จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 72.90 ล้านบาท หรือ 0.04423 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 0.32 ล้านบาท หรือ 0.00020 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมลดลงเหลือ 3,652.31 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 5,259.37 ล้านบาท แต่บริษัททำกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 107.44 ล้านบาท หรือ 0.06539 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 36.45 ล้านบาท หรือ 0.02249 บาทต่อหุ้น ถือเป็นการฟื้นตัวของกำไรขึ้นอย่างชัดเจน

สิ่งสำคัญ คือ เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจสำหรับลงทุนพบว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งมาก เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 2,192.36 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 1,027.86 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 2.14 เท่า แสดงว่า สภาพคล่องทางการเงินมากพอสมควร

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แม้ว่าบริษัทมีหนี้สินรวม 1,828.07 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 1,351.93 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 1.36 เท่า เพราะเชื่อว่าปัญหาส่วนนี้บริษัทจะรีบดำเนินการอีกไม่ช้า ถ้าหากบริษัทกลับมาทำกำไรได้แข็งแกร่ง

ทั้งจากข้อมูลผู้บริหาร ระบุว่าได้มีการปรับกลยุทธ์ในการขาย โดยจะเน้นการขยายตลาดในประเทศให้มียอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น และส่วนตลาดต่างประเทศ บริษัทเริ่มเปิดตลาดใหม่ คือประเทศเวียดนาม ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทยังคงมีแผนที่จะขยาย ตลาดในประเทศและตลาดในเวียดนามเพิ่มเติม รวมทั้งแผนการรุกไปยังตลาดทางเลือกใหม่ โดยบริษัทได้ส่งทีมมาร์เก็ตติ้งที่มีความเชี่ยวชาญในการบุกตลาดอาเซียน เข้าไปขยายฐานลูกค้า อาทิ กลุ่มลูกค้าโรงไฟฟ้า และกลุ่มโรงงานปูนซีเมนต์

อีกทั้ง มองว่าประเทศเวียดนามถือเป็นประเทศที่เศรษฐกิจยังมีการขยายตัวสูงขึ้นในอนาคต เห็นได้จากธุรกิจต่างๆ ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศดังกล่าวสูงขึ้น โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ยอดขายของปี 2559 แบ่งเป็นในประเทศ 80-85% และต่างประเทศ 15-20% ปัจจุบันมียอดขายถ่านหินไปประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง

AGE จึงเป็นหุ้นที่เริ่มน่าจับตามองอีกครั้ง!!

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายพนม ควรสถาพร 203,245,563 หุ้น 13.15%

2.น.ส.ปณิตา ควรสถาพร 191,778,999 หุ้น 12.41%

3.นางณัชปภา ควรสถาพร 150,267,041 หุ้น 9.73%

4.น.ส.พิมญาดา ควรสถาพร 82,547,630 หุ้น 5.34%

5.น.ส.ธิญาดา ควรสถาพร 59,125,387 หุ้น 3.83%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย อภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร ประธานกรรมการ

2.นาย อภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร กรรมการอิสระ

3.นาย พนม ควรสถาพรประธานกรรมการบริหาร

4.นาย พนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ

5.นาย พนม ควรสถาพร กรรมการ

Back to top button