VGI โตรับสื่อนอกบ้านแกร่ง

เริ่มเห็นพัฒนาการเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง สำหรับ VGI ที่เปิดงบในไตรมาส 3 พลิกมามีกำไรสุทธิ 307 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


คุณค่าบริษัท

เริ่มเห็นพัฒนาการเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง สำหรับบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ที่เปิดงบในไตรมาส 3 ปี 2567/2568 พลิกมามีกำไรสุทธิ 307 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 3,339 ล้านบาท และมีรายได้จากการให้บริการและขาย 1,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1,331 ล้านบาท

รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการเติบโตของธุรกิจสื่อโฆษณาที่เพิ่มขึ้น 16.2% ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้น 4.2% ในขณะที่ธุรกิจการจัดจำหน่ายรายได้ลดลงเล็กน้อย 0.8% ซึ่งในไตรมาสนี้ธุรกิจสื่อโฆษณามีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 49% ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีสัดส่วน 30.7% และธุรกิจการจัดจำหน่ายมีสัดส่วนอยู่ที่ 20.2% ของรายได้จากการให้บริการและการขาย

ที่สำคัญ ในไตรมาสนี้บริษัทไม่มีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วมเหมือนในไตรมาส 3 ปี 2566/2567 เลยหนุนให้ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกปี 2567/2568 พลิกมามีกำไรสุทธิ 448 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 3,539 ล้านบาท โดยมีรายได้อยู่ที่ 4,302 ล้านบาท

นอกจากมีพัฒนาการเชิงบวกในแง่ผลประกอบการแล้ว VGI ยังมีสตอรี่เชิงบวกเข้ามาหนุน จากการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศให้ VGI เป็นหลักทรัพย์ที่ได้เข้าคำนวณใน SET50 หลังการควบรวมระหว่างบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULFI (เดิม) และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH

ส่วนการลงทุนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่ง VGI เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีความสนใจ ยังไม่มีความชัดเจน หลังจากมีการเลื่อนพิจารณาร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปในการประชุมสมัยหน้า

อย่างไรก็ตาม บล.กรุงศรี ระบุว่า ได้ปรับเพิ่มกำไรของ VGI ในปี 2567/2568 (เม.ย. 2567-มี.ค. 2568) ขึ้น 57%, ปี 2568/2569 (เม.ย. 2568-มี.ค. 2569) ขึ้น 43% และปี 2569/2570 (เม.ย. 2569-มี.ค. 2570) ขึ้น 17% จาก 1) ธุรกิจปกติฟื้นดีกว่าคาด และ 2) รวมรายได้ดอกเบี้ยรับที่เพิ่มจากการเพิ่มทุน PP โดยปรับเพิ่ม EBITDA ขึ้น 8% ถึง 22% จากรายได้สื่อนอกบ้าน (OOH) มีแนวโน้มฟื้นดีกว่าคาด และคุมค่าใช้จ่ายขายและบริหารได้ดีกว่าคาด และปรับเพิ่มรายได้อื่น ๆ ขึ้น 69% ถึง 153% จากการรวมรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินเพิ่มทุน PP

ทั้งนี้ การเพิ่มทุน PP ทำให้จำนวนหุ้น VGI เพิ่มกว่า 79% ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 2567/2568 ลดลง 12%, ปี 2568/2569 ลดลง 20% และปี 2569/2570 ลดลง 35% ตามลำดับ

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น VGI ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 90.47 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 15.07 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 1.26 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.07 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 2.24 บาท จากราคาต่ำสุด 1.70 บาท และราคาสูงสุด 2.65 บาท

Back to top button