หุ้นน้ำมะพร้าว กำไรฝืดคอ.!

ตั้งแต่ต้นปีมา สองหุ้นน้ำมะพร้าวที่เป็นความหวังของหมู่บ้านอย่าง COCOCO กับ PLUS กอดคอกันวิ่งกระจุยกระจาย จากแรงหนุนที่คาดหวังว่ายอดขายจะปัง


ตั้งแต่ต้นปีมา สองหุ้นน้ำมะพร้าวที่เป็นความหวังของหมู่บ้านอย่างบริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO กับบริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS กอดคอกันวิ่งกระจุยกระจาย จากแรงหนุนที่คาดหวังว่ายอดขายจะปัง…จะขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในช่วงหน้าร้อน…

แต่พอจบไตรมาส 1/2568 ซึ่งยังไม่ประกาศงบเสียด้วยซ้ำ ราคาทั้งสองหุ้นก็เริ่มโรยตัวลง โดยหุ้น COCOCO ราคาปรับลดลงจาก 12 บาทเศษในช่วงต้นปี ปัจจุบันมาอยู่ที่ 6 บาทเศษ ส่วน PLUS ราคาปรับลดลงจาก 5 บาทเศษในช่วงต้นปี ตอนนี้เหลือแค่ 3 บาทเศษ

โอเค…ส่วนหนึ่งถูกขายทำกำไร…อันนี้เข้าใจได้ แล้วส่วนที่เหลือล่ะเกิดจากอะไร..?? อันนี้น่าคิด

สุดท้ายมาถึงบางอ้อ…พิสูจน์ทราบชัดจากงบการเงินในไตรมาส 1/2568 ที่ไม่โตไม่พอ…ยังลดลงอีกต่างหาก ซ้ำร้ายขาดทุนเสียด้วยซ้ำ…

เริ่มที่ COCOCO ซึ่งประกาศงบไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิลดลงฮวบฮาบเหลือแค่ 67.8 ล้านบาท ลดลง 68.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 203.6 ล้านบาท

ที่จริงขาของรายได้ของ COCOCO ยังเติบโตอยู่นะ โดยมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 1,532.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่ขยายตัวในหลายตลาดหลัก โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียและอเมริกา

แต่ถ้าไปดูขาของต้นทุนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างต้นทุนขายและบริการอยู่ที่ 1,256.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.7% ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากมียอดขายผลิตภัณฑ์กะทิมากกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ต้องจัดหาวัตถุดิบเพิ่มเติมจากแหล่งอื่นเพื่อรองรับปริมาณคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญ

ด้านต้นทุนในการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 37.2% มาอยู่ที่ 99.3 ล้านบาท สอดคล้องกับภาพรวมของรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 12.5% มาอยู่ที่ 107.4 ล้านบาท

เมื่อขาของต้นทุนเพิ่มขึ้นมากกว่าขาของรายได้ ก็ส่งผลให้ตัวเลขบรรทัดสุดท้ายของ COCOCO ปรับลดลงอย่างที่เห็น…

ทว่า เห็นงบของ COCOCO แย่แล้ว…พอไปส่องงบ PLUS กลับแย่กว่าอีกแฮะ เพราะถึงขั้นพลิกไปขาดทุน 44.09 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12.78 ล้านบาท

สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายปรับลดลง 8.8% อยู่ที่ 286.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากมาตรการการจัดเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์จากการเกษตร และภาษีความหวานที่สูงขึ้น รวมถึงสถานการณ์สงครามทะเลแดง ทำให้รายได้จากการขายกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมเม็ดแมงลักในทวีปตะวันออกกลางและทวีปยุโรปชะลอลง อีกทั้งแนวโน้มการบริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงยอดขายสินค้าเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวเป็นที่นิยม ทำให้ยอดขายกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมเม็ดแมงลักและเมล็ดเจียลดลงในทวีปเอเชียและทวีปอเมริกา

ยอดขาย PLUS ปรับลดลงไม่พอ…ต้นทุนยังพุ่งอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น 12.5% มาอยู่ที่ 275.2 ล้านบาท เป็นผลมาจากอยู่ระหว่างการพัฒนานวัตกรรมสายการผลิตใหม่สำหรับขวดบรรจุภัณฑ์พลาสติก Aseptic & Warm fill ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบศักยภาพเครื่องจักร และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น

ด้านค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 11.6% อยู่ที่ 25.9 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นพัฒนาสายการผลิตใหม่ จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายค่าวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นสูง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 24.2% อยู่ที่ 30.8 ล้านบาท

โดยในไตรมาสนี้ PLUS มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 43.3 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 19.4 ล้านบาท

จะเห็นว่าทั้ง COCOCO และ PLUS ต่างก็มีอาการสำลักน้ำมะพร้าว…เลยทำให้กำไรไม่มาตามนัด..!!

ก็ไม่รู้ว่าทั้งสองหุ้นจะเกิดอาการสำลักไปนานแค่ไหน..?? และลากยาวไปกี่ไตรมาส..?? นี่คงเป็นคำถามที่นักลงทุนอยากรู้คำตอบ

เพราะหากยังรักษาอาการสำลักไม่หาย…ถึงเวลาต้องเผ่นแล้วล่ะ..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button