BCPG น้ำลาวปั๊มกำไร.!

ถ้าจำกันได้ช่วงต้นเดือน ต.ค. 2568 ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ไฟสปาร์กกับหุ้นโรงไฟฟ้าหลาย ๆ ตัว หนึ่งในนั้นคือ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG


ถ้าจำกันได้ช่วงต้นเดือน ต.ค. 2568 ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ไฟสปาร์กกับหุ้นโรงไฟฟ้าหลาย ๆ ตัว หนึ่งในนั้นคือ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ลูกในไส้ของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ที่วิ่งแรลลี่ 3 วันซ้อน จนราคาทะลุ 9 บาทเศษ กระทั่งในเวลาต่อมาถูกขายทำกำไรไปตามระเบียบ (พัก)…

การมาของหุ้น BCPG ในรอบนี้ ถูกมองว่าเกิดจากการขานรับนโยบาย Quick Big Win ด้านพลังงานของ “อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน…ก็ว่ากันไป

แต่ที่มากกว่านั้น คงเป็นการปรับเพิ่มอัตราค่าไฟในสหรัฐอเมริกาจาก 29 เหรียญสหรัฐต่อเมกะวัตต์-วัน ในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ถึงครึ่งปีแรก 2568 เป็น 270 เหรียญสหรัฐต่อเมกะวัตต์-วัน ในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ถึงครึ่งปีแรก 2569 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 329 เหรียญสหรัฐต่อเมกะวัตต์-วัน สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง 2569 ถึงครึ่งปีแรก 2570 ตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่ขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการด้าน AI 

โดย BCPG ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง ไล่มาตั้งแต่โครงการโรงไฟฟ้า Carroll County Energy LLC (CCE) กำลังผลิต 341 เมกะวัตต์, South Field Energy LLC (SFE) กำลังผลิต 90 เมกะวัตต์, Hamilton Liberty LLC กำลังผลิต 212 เมกะวัตต์ และ Hamilton Patriot LLC กำลังผลิต 214 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิตในสหรัฐฯ ทั้งหมด 857 เมกะวัตต์

ก็ถือว่าไม่น้อยนะ…BCPG เลยถูกคาดหวังว่าจะได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่าไฟของสหรัฐฯ ไปเต็ม ๆ

ผสมโรงกับแนวโน้มผลประกอบการที่เริ่มสดใสซาบซ่า หลังจากงบในไตรมาส 2/2568 พลาดท่าพลิกไปขาดทุน 651.02 ล้านบาท โดยสรุปข้อมูลสำคัญรายธุรกิจประจำไตรมาส 3/2568 ที่ BCPG แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะพลิกมามีกำไรได้ เพราะมีปริมาณการผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,010.9 กิกะวัตต์-ชั่วโมง เทียบกับไตรมาส 3/2567 ที่มีปริมาณการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 1,987.5 กิกะวัตต์-ชั่วโมง และไตรมาส 2/2568 ที่มีปริมาณการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 1,662.8 กิกะวัตต์-ชั่วโมง 

สาเหตุหลักมาจากการเปิด COD ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งโครงการ 600 เมกะวัตต์ ซึ่งเริ่มทยอย COD ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2568 โดยสัดส่วนการถือหุ้นของ BCPG อยู่ที่ 48.25% คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วน 290 เมกะวัตต์ ประกอบกับปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาวเพิ่มขึ้น จากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น

ถ้าเจาะไปในรายประเทศ เริ่มที่ประเทศไทย ในไตรมาส 3/2568 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยลดลงจากไตรมาส 3/2567 เนื่องจากค่าความเข้มแสงที่ลดลง ในขณะที่ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มขึ้น จากความเร็วลมเพิ่มขึ้น

ถัดมาใน สปป.ลาวในไตรมาส 3/2568 มีปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนใน สปป.ลาว และมีปริมาณน้ำมากกว่าปีที่แล้ว โดยเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลตามปกติ

ในไตรมาส 3/2568 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ได้เริ่ม COD โซน 1 และ 2 เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2568 จำนวน 276 เมกะวัตต์ ส่วนโซน 3 และ 4 COD เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2568 จำนวน 324 เมกะวัตต์ ทำให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าใน สปป.ลาว เพิ่มขึ้น

ส่วนในสหรัฐอเมริกา ในไตรมาส 3/2568 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 3/2567 เนื่องจากมีการปิดซ่อมโรงไฟฟ้า SFE (South Field Energy) 

นอกจากนี้ ไตรมาส 3/2568 BCPG ยังมีรายได้จากการใช้บริการถังเก็บน้ำมันและการใช้ท่อ โดยมีปริมาณการใช้ถังเก็บน้ำมันอยู่ที่ 716.5 ล้านลิตร และการใช้ท่ออยู่ที่ 323.3 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2567 เนื่องจากมีการปรับสัญญาการเช่าถังบางส่วน และการใช้บริการขนถ่ายน้ำมันของลูกค้าเพิ่มขึ้น 

งั้นงบในไตรมาส 3/2568 ของ BCPG ก็น่าจะปังนะสิ..!! 

โดย บล.หยวนต้า คาดกำไรปกติในไตรมาส 3/2568 ของ BCPG จะอยู่ที่ 600-700 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดจะเป็นจุดสูงสุดของปีด้วยน๊า…

มิน่าบรรดานักวิเคราะห์จึงพาเหรดกันอัพกำไรในปีหน้าขึ้น เพื่อสะท้อนค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น

  วันนี้  BCPG จึงเป็นหุ้นที่ครบเครื่อง ปัจจัยพื้นฐานแกร่ง…สตอรี่ก็แจ่มนะเจ้าคะ..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button