สังคมข่าวหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงมาต่ำกว่า 1,300 จุด อีกครั้ง แต่ยังไม่ได้หลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,265 ถึง 1,270 จุด ซึ่งถือว่าเป็นแนวรับทางเทคนิค ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า หากดัชนีหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,270 ถึง 1,300 จุด ทำให้คาดว่าในสิ้นปี 2568 โอกาสที่ดัชนีจะยืนเหนือระดับ 1,300 จุด ยังคงมีโอกาสอยู่ ล่าสุด “ชวินดา” ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน หรือสมาคม บลจ. ยังคงคาดการณ์ดัชนีสิ้นปีที่ 1,350 จุด เพราะมองว่าจะมีแรงซื้อจากกองทุน TESG เข้ามาช่วยตลาด

หุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ราคาขึ้นมาต่อเนื่อง หลังจากแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ดีกว่าคาด มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,320 ล้านบาท ดีกว่าที่ consensus คาดไว้ถึง 5.6% โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่น บล.เคจีไอ ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 24.50 บาท ส่วนวานนี้ราคาหุ้นปิดที่ 19.70 บาท บวกขึ้นมาได้ 4.79% มูลค่าซื้อขายมาเป็นอันดับหนึ่ง ในระยะสั้นแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 20 บาท ซึ่งเป็นแนวต้านทางด้านจิตวิทยา ส่วนแนวต้านทางเทคนิคอยู่ที่บริเวณ 20.20 บาท

หุ้นไอพีโอน้องใหม่ บมจ.กลุ่มสมอทอง หรือ SMO ล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างการ 15 สตางค์ต่อหุ้น ทำให้วานนี้ราคาหุ้นบวกขึ้นมาได้ 12 สตางค์ เปลี่ยนแปลง บวกกว่า 3.09% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในปีนี้ของกลุ่มสมอทองจะอยู่ที่ประมาณ 700 ล้านบาท และเมื่อดูจากนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ เมื่อคำนวณออกมาแล้ว คาดว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของกลุ่มสมอทอง เมื่อเทียบกับราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน (บริเวณ 4.00 บาท +/-) จะอยู่ที่ประมาณถึง 10% (รวมเงินปันผลงวดสิ้นปี 2568) ซึ่งถือว่าน่าสนใจ

มีคำถามเข้ามาจำนวนมากเกี่ยวกับหุ้น บีทีเอส เลยเข้าไปหาข้อมูลดู ยังไม่พบสิ่งที่เป็นปัจจัยลบแต่อย่างใด ซึ่งสวนทางกับราคาหุ้นที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดลงมาอยู่ที่ 2.64 บาท ขณะที่นักวิเคราะห์สายเทคนิคมองว่า ราคาหุ้นของบีทีเอส มีโอกาสที่จะลงมาเล่นที่ระดับประมาณ 1 บาทกว่า ๆ โน่นเลย เพราะยังไม่เห็นสัญญาทางเทคนิคที่จะบ่งชี้ว่าราคาหุ้นจะม้วนกลับขึ้นมาได้ ในทางกลับกัน มีแต่จะเห็นการม้วนลงไปเรื่อย ๆ มากกว่า ใครติดหุ้นอยู่ได้แต่กุมขมับ คงต้องยอมตัดใจขายขาดทุนนั่นแหละ

โชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA แจ้งผลดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 2,306 ล้านบาท เติบโต 54% และมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวน 2,761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78% จากไตรมาส 3 ของปี 2567 เป็นผลจากช่องทางธนาคารมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้น 129% ช่องทางตัวแทนเพิ่มขึ้น 14% ในขณะที่ช่องทางอื่น ๆ ลดลง 55% สำหรับช่วง 9 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 5,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,021 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลง +56%

หลักทรัพย์บัวหลวง เผยน้ำท่วมปี 2568 ยังอยู่ในกรอบจำกัด มูลค่าความเสียหายราว 0.1% ของ GDP ส่วนกลุ่มหุ้นรับเหมาก่อสร้าง–วัสดุก่อสร้าง, พลังงาน, โรงไฟฟ้าเอกชน และธนาคาร มีโอกาสได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวชัดเจน ส่วนหุ้นกลุ่มประกันภัย–อิเล็กทรอนิกส์–ยานยนต์ เสี่ยงผลกระทบระยะสั้น แต่ตลาดโดยรวมพร้อมรับมือ และเหมาะแก่การลงทุนเชิงเลือกหุ้นช่วงนี้

คาเฟอีน