เล่นรอบหุ้นแบงก์

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ลงไปลึกสุดที่ 1,262 จุด (-6.33 จุด) พร้อมกับลุ้นว่า จะหลุด 1,260 จุด ที่เป็นแนวรับทางเทคนิค (1,265-1,260 จุด) หรือไม่

แต่ปรากฏว่า “ไม่หลุด”

ดัชนีค่อย ๆ ทะยานกลับขึ้นมาได้ จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ที่นำโดยหุ้นไฟฟ้า เช่น กัลฟ์ (GULF) และ BGRIM รวมถึงมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มน้ำมันคือ TOP PTTEP และ PTTGC

และยังมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคารฯ เข้ามาค่อนข้างคึกคักตั้งแต่เปิดตลาดภาคเช้า

มีคำถามเข้ามาว่า หุ้นกลุ่มธนาคารมีปัจจัยอะไรหนุน

คำตอบคือ ไม่ได้มีอะไรเลย นอกจาก “การเล่นรอบ”

อย่างที่ทราบกันว่า หุ้นกลุ่มธนาคารถูกเล่นรอบมาตั้งแต่ปลายปี 2567 มาจนถึงปัจจุบัน คือ เมื่อราคาลงมาที่บริเวณแนวรับ จะมีแรงเข้ามาซื้อ ก่อนที่จะไปขายบริเวณแนวต้าน วนเวียนไปแบบนี้

เหตุที่หุ้นแบงก์ถูกนำมาเล่นรอบค่อนข้างบ่อย อาจเป็นเพราะว่า น่าจะเป็นกลุ่มที่แกร่งสุดแล้ว เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ

หุ้นแบงก์ถือว่าโดดเด่นอย่างมากหลังแจ้งงบการเงินงวดไตรมาส 3/68 ออกมา

ส่วนใหญ่กำไรสุทธิมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้

ระดับเงินกองทุน, หนี้ที่ไม่ก่อไห้เกิดรายได้ อยู่ในระดับที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะหุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่นำโดย KBANK SCB BBL และ KTB

หุ้นกลุ่มธนาคารยังมีอัตราการจ่ายเงินปันผลน่าสนใจ  อย่างแบงก์ใหญ่ เฉลี่ย 4-8% ต่อปี

คือหากนักลงทุนคนไหนเข้าพลาด ประมาณว่าเป็นหลายไม้ของรอบนั้น ๆ อย่างน้อย (เมื่อติดดอย) ก็ยังมีเงินปันผลที่มียีลด์สูงคอยเป็นเบาะรองรับแรงกระแทกได้ดี

หรือหากทนถืออีกสักนิด ราคาหุ้นเดี๋ยวก็กลับขึ้นมา หรือสามารถลงไปรอซื้อที่แนวรับเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุนได้

แต่สิ่งที่ต้องระวังสำหรับหุ้นธนาคารฯ คือ รอบในการเล่นจะอยู่ราว ๆ 2-3 วันเท่านั้น 

หรือบางรอบจะสั้นเพียง 2 วันก็มี

กสิกรไทย หรือ KBANK ราคารอบนี้อาจขึ้นไปถึง 188.50 บาท ที่เป็นแนวต้านได้ ใครที่มีต้นทุนต่ำกว่านั้น ก็น่าจะขนหุ้นมาขายที่บริเวณราคาดังกล่าวนี่แหละ

ส่วน บมจ.เอสซีบี เอกซ์ หรือ SCB ล่าสุดราคาหุ้นยังเคลื่อนไหวในกรอบล่าง (127.00-129.00 บาท)

หากดูจากกราฟ น่าจะมีโอกาสถูกลากขึ้นมาเล่นในกรอบบนที่ 129.00-132.50 บาท แต่ยังไม่น่าจะขึ้นไปทำจุดไฮล่าสุดที่ 135.50 บาท

กรุงไทย หรือ KTB แนวต้านสำคัญ 27.75- 28.00 บาท ผ่านค่อนข้างยากมาก

แต่ล่าสุดมีรายงานว่า “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ผู้ถือหุ้นใหญ่ กัลฟ์ฯ เข้ามาเก็บหุ้น (แบบส่วนตัว) ใน KTB กว่า 130 ล้านหุ้น (ประมาณ 0.90%) อาจจะเป็นเซนติเมนต์เชิงบวกกับหุ้น KTB ขึ้นมาแตะแนวต้านอีกครั้ง

ส่วนนักลงทุนคนไหนที่ถือหุ้นก่อน XD แล้วยังไม่ได้ขายออก เท่ากับว่ากินสองเด้ง ทั้งเงินปันผล และส่วนต่างราคา

ถึงหุ้นแบงก์กรุงเทพ BBL ขวัญใจต่างชาติ ราคาหุ้นจะถูกเล่นในกรอบ  154.50–160.00 บาท ส่วนวานนี้ปิด 158.00 บาท หากวันนี้ราคาไปต่อ อาจจะติดแนวต้านดังกล่าว และเป็นระดับราคาที่ไม่ควรเข้าไปรับ
ไม่เช่นนั้นเสี่ยงติดดอยค่อนข้างสูง

นักลงทุนคนไหน หันซ้ายหันขวา ไม่รู้จะเลือกเล่นหุ้นอะไรดี

ลองดูกลุ่มแบงก์น่าจะได้ เพราะนักวิเคราะห์ต่างยังคงแนะนำซื้อหุ้นแบงก์อยู่ และแม้ว่าบางหุ้นราคาจะขึ้นมาใกล้กับราคาเป้าหมาย แต่ยังถูกแนะนำ “ถือ” จากเงินปันผลระดับสูง

สำหรับดัชนี SET BANK สิ้นปี 67 อยู่ที่ 400 จุด

วานนี้ปิดที่ 446 จุด หรือเพิ่มขึ้นมา 11.5% และน่าจะเป็นกลุ่มหุ้นเดียวที่ดัชนีกลุ่มฯ วิ่งสวนกับภาพรวมของตลาด เมื่อนับจากสิ้นปี 67