เลิกกลัวยาขมพลวัต 2016

นักวิเคราะห์ที่มองอนาคตของตลาดหุ้นทางลบต้องมีอันเสียหน้าครั้งใหญ่เมื่อวานซืนและวานนี้อย่างรุนแรง เพราะมีแรงซื้อกะทันหันเริ่มกลับมา ทำให้ราคาน้ำมัน ราคาหุ้น และดัชนีตลาดหุ้น พากันเริงร่าอย่างแรง เริ่มต้นตั้งแต่ตลาดหุ้นไทย ตามมาด้วยยุโรป และสหรัฐฯ ก่อนที่จะแพร่ระบาดตลาดวานนี้ทั่วโลกที่กระดานหุ้นเขียวยกแผง จะมียกเว้นก็เพียงแค่ตลาดหุ้นจีน


วิษณุ โชลิตกุล

 

นักวิเคราะห์ที่มองอนาคตของตลาดหุ้นทางลบต้องมีอันเสียหน้าครั้งใหญ่เมื่อวานซืนและวานนี้อย่างรุนแรง เพราะมีแรงซื้อกะทันหันเริ่มกลับมา ทำให้ราคาน้ำมัน ราคาหุ้น และดัชนีตลาดหุ้น พากันเริงร่าอย่างแรง เริ่มต้นตั้งแต่ตลาดหุ้นไทย ตามมาด้วยยุโรป และสหรัฐฯ ก่อนที่จะแพร่ระบาดตลาดวานนี้ทั่วโลกที่กระดานหุ้นเขียวยกแผง จะมียกเว้นก็เพียงแค่ตลาดหุ้นจีน

สำหรับตลาดหุ้นไทยเองนั้น เมื่อวานนี้ ดัชนีก็สามารถปิดบวกแรงจนเกือบจะทะลุแนวต้าน 1,400 จุดขึ้นมาได้อีกครั้ง ซึ่งหากไม่มีข่าวร้ายรุนแรงอะไร ก็น่าจะทะลวงข้ามไปได้ในวันนี้ ทำเอาบรรดานักลงทุนพากันถอนหายใจโลกอกไปตามๆ กัน

คำอธิบายถึงปรากฏการณ์ขาขึ้นของตลาดหุ้นระลอกใหม่ ส่วนใหญ่บอกว่าเกิดจากการปรับกระบวนทัศน์ของบรรดานักลงทุนขาใหญ่โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและพอร์ตโบรกเกอร์ที่มีอิทธิพลที่สามารถเปลี่ยนจากความหวาดกลัวต่อทิศทางของดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟดมาเป็นตีความเชิงบวกว่า การขึ้นของอัตราดอกเบี้ย คือสัญญาณฟื้นตัวสู่สภาพปกติของเศรษฐกิจที่กำลังซื้อขงองผู้บริโภค และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่งขึ้น

สภาพเช่นนี้ คล้ายคลึงกับปรากฏการณ์ปรับกระบวนทัศน์ของนักลงทุนเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่เฟด ในยุคของนาย เบน เบอร์นันเก้ ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเริ่มชะลอ QE เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดไว้ มีผลทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตลาดร่วงลงนานนับสัปดาห์ แต่ถึงเวลายกเลิกจริง ตลาดหุ้นก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอีกครั้ง

คำอธิบายในครั้งนั้นอยู่ที่ว่าตลาดได้ซึมซับว่า ความคุ้นเคยกับ “เงินราคาถูก” มายาวนานต่อเนื่อง ไม่ได้สะท้อนข้อเท็จจริงเรื่องความสามารถทางธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนทั้งหลายแต่อย่างใด การที่สภาพคล่องส่วนเกินของปริมาณเงินที่ท่วมตลาด จึงไม่สามารถยั่งยืนได้ดีเท่ากับการปล่อยให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ทำหน้าที่ขับเคลื่อนราคาหุ้นและดัชนีตลาดหุ้น

ผลลัพธ์ของความเข้าใจดังกล่าวมีส่วนทำให้ตลาดหุ้นเดินหน้าเป็นขาขึ้นต่อไป หลังจากผันผวนระยะสั้นๆชั่วคราว

ยามนี้ก็เช่นกัน สถานการณ์ดูเหมือนจะซ้ำรอยเดิมกับ 2 ปีก่อนไม่มีผิด นักลงทุนสถาบันจำนวนมาก หันมาเข้าสู่อ้อมกอดแห่งรักของดอกเบี้ยขาขึ้นอีกครั้งอย่างไร้กังวล โดยอาศัยตัวเลขสนับสนุนจากยอดขายบ้านในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งแกร่ง และราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว

ดอกเบี้ยขาขึ้น คือ สิ่งที่ยืนยันว่าภาวะเงินฝืดและเศรษฐกิจตกต่ำได้ผ่านพ้นไปแล้ว ความกังวลของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ไม่ใช่เรื่องของการขาดสภาพคล่อง แต่อยู่ที่เงินเฟ้อมากกว่า

ความเชื่อว่าดอกเบี้ยขาขึ้น ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ได้แสดงพลังออกมาเป็นทางการผ่านแรงซื้ออย่างหนัก ยืนยันอย่างเป็นทางการเวลาสิ้นสุดของความหวาดกลัว และดอกเบี้ยต่ำติดพื้นซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ของวิกฤตยาวนานทางเศรษฐกิจกำลังจบสิ้นลง

แน่นอนว่าสัญญาณขาขึ้นรอบใหม่ของตลาดสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และราคาน้ำมันทะยานแข็งแกร่งรอบละ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกที่แตกต่างกันไปอีกครั้ง แต่ก็จะเป็นแค่ชั่วคราวเช่นเคย

 คำเปรียบเปรยเอาไว้แหลมคมเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางว่าเสมือนหนึ่งการให้คนไข้กินยาขม ถูกนำมาอ้างอิงอีกครั้ง เพราะโดยข้อเท็จจริง ดอกเบี้ยไม่ได้มีความหมายในตัวของมันเอง แต่ถูกกำหนดขึ้นมา เพื่อให้ภาพสะท้อนความแข็งแรงทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้อนุกรมเวลา และสภาพแวดล้อมของตลาดเงินแต่ละช่วงเวลา

การขึ้นและลงของอัตราดอกเบี้ย ภายใต้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว โยงใยเข้ากับค่าของสกุลเงินประเทศต่างๆ อย่างลึกซึ้ง ที่ส่งผลเกี่ยวโยงไปกระทบต่อบรรยากาศการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศด้วย โดยเฉพาะในส่วนของตลาดเก็งกำไรที่เรียกว่า แคร์รี่ เทรด ที่มหึมาในปัจจุบัน

แม้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นขาขมทุดกครั้งสำหรับการลงทุนในตลาดเก็งกำไร แต่ข้อเท็จจริงทางเศรษฐศาสตร์ที่ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ไม่เคยทำให้เศรษฐกิจพังพินาศ แต่การคงอัตราดอกเบี้ยต่ำนานเกินไป ทำให้ฟองสบู่ตลาดหุ้นเกิดขึ้น และนำไปสู่ภาวะล่มสลายได้ง่ายกว่า เป็นสิ่งที่ยากจะปฏิเสธได้

หากการขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีปัญหาก็จะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นมาก เพราะผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนทั้งหลายจะเข้ามากลบเกลื่อนปัญหาในภายหน้า โดยตั้งบนรากฐานของช่องว่างระหว่างความต้องการกับการสนองตอบของสภาพคล่องของทุนในตลาด

การวิ่งขึ้นลงต่อเนื่องครั้งใหม่ของตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะกระบวนทัศน์ของนักลงทุนเปลี่ยนไปสัปดาห์นี้ ถือเป็นการสลัดทิ้งความกลัวที่ไร้รากเกี่ยวกับดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟดได้อย่างสมเหตุสมผล

เมื่อความหวาดกลัวเริ่มหมดสิ้นไป แรงซื้อจริงจังก็กลับมาทำให้ตลาดทราบถึงภาวะกระทิงรอบใหม่ได้

Back to top button