ความผิดปกติที่ตลาดเซี่ยงไฮ้พลวัต 2016

เมื่อวานนี้ ในขณะที่ดาวอังคารเคลื่อนตัวใกล้โลกที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนักดาราศาสตร์พากันติดตามใกล้ชิด มีเหตุการณ์ประหลาดที่ผิดปกติในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ 2 เหตุการณ์ไล่เลี่ยกัน ประกอบด้วย 1) ดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้บวกแรงตั้งแต่เปิดจนถึงปิดตลาดในวันเดียวมากที่สุดอีกวันหนึ่ง มากถึง 80 จุดเศษ 2)ภาคบ่ายของการซื้อขายในตลาดหุ้น มีการร่วงลงรุนแรงของดัชนีตลาดมากถึง 10% (เรียกว่าติดฟลอร์) กินเวลานานเพียง 1 นาที ก็กลับมาสู่ระดับเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


วิษณุ โชลิตกุล

เมื่อวานนี้ ในขณะที่ดาวอังคารเคลื่อนตัวใกล้โลกที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนักดาราศาสตร์พากันติดตามใกล้ชิด มีเหตุการณ์ประหลาดที่ผิดปกติในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ 2 เหตุการณ์ไล่เลี่ยกัน ประกอบด้วย 1) ดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้บวกแรงตั้งแต่เปิดจนถึงปิดตลาดในวันเดียวมากที่สุดอีกวันหนึ่ง มากถึง 80 จุดเศษ 2)ภาคบ่ายของการซื้อขายในตลาดหุ้น มีการร่วงลงรุนแรงของดัชนีตลาดมากถึง 10% (เรียกว่าติดฟลอร์) กินเวลานานเพียง 1 นาที ก็กลับมาสู่ระดับเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปรากฏการณ์แรก เกิดขึ้นหลังจากที่มีแรงสนับสนุนจาก 2 ประการคือ ด้านหนึ่ง นักวิเคราะห์พากันคาดการณ์ว่า MSCI ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก จะรวมดัชนีตลาดหุ้นจีนเข้าไว้ในดัชนี MSCI Emerging Markets Index ในเร็วๆ นี้ 

บรรดา เทรดเดอร์ในฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ พากันคาดว่า การรวมหุ้น A-Share (หุ้นสำหรับเฉพาะนักลงทุนจีนเท่านั้นที่จะซื้อขายได้ หรือ หุ้นกระดานนักลงทุนท้องถิ่น) เข้าไว้ในดัชนี MSCI Emerging Markets Index จะทำให้เม็ดเงินจากนักลงทุนในกลุ่มกองทุนบริหารจัดการสินทรัพย์ (กองทุนหุ้น) เดินหน้าเข้าเทรดในตลาดหุ้นจีนจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยหนุนตลาดหุ้นจีนทะยานขึ้น จากความคึกคักของทุนที่มีจำนวนเพิ่มทุน และเกิดการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนใหม่ๆ ที่ทำให้มาร์เก็ตแคปของตลาดเพิ่มทวีคูณ

ด้านโกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจชื่อดังของสหรัฐฯ  คาดการณ์ถึงข่าวดีในช่วงเช้าวานนี้ว่า มีความเป็นไปได้ถึง 70% ที่ MSCI จะรวมดัชนีตลาดหุ้นจีนโดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี เข้าไว้ในดัชนี MSCI Emerging Markets Index ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นจีนเป็นไปอย่างคึกคักจากกระแสฟันด์โฟลว์จากต่างชาติ และกระแสทุนภายในประเทศ

อีกด้านหนึ่ง  ธนาคารกลางจีน (PBOC) ก็ได้ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าตลาดมูลค่า 5.5 หมื่นล้านหยวน (เท่ากับ 8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเช้าวานนี้ เพื่อบรรเทาสภาพคล่องที่ตึงตัว  ระหว่างที่ตลาดหุ้นและนักลงทุนกำลังรอติดตามผลของการประกาศตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจจีนในเช้าวันนี้ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของภาคการผลิตเดือนพฤษภาคมโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพฤษภาคมเช่นกันจากไคซิน

แม้ว่าจะมีคำถามว่าการอัดฉีดเงินดังกล่าวออกมาเสริมสภาพคล่องของตลาดหุ้น จะเพื่อกลบเกลื่อนตัวเลขดัชนีสำคัญทั้งหลายที่อาจจะย่ำแย่ต่อ แต่ก็ถือว่าเป็นข่าวดีที่ทำให้ตลาดพึงพอใจในระยะสั้นๆ อยู่ดี แม้ว่าทุกคนจะรู้ดีแก่ใจว่า เป็นการกระทำที่ไม่มีความยั่งยืน จนกว่าตัวเลขอื่นๆ ที่ออกมาตอกย้ำว่าเศรษฐกิจจีนกำลังกลับมามีเสถียรภาพอย่างยั่งยืนกว่าที่ผ่านมา

ข่าวดีของตลาดหุน้เซี่ยงไฮ้เมื่อวานนี้ เกือบจะไม่มีความหายใดๆ เมื่อเกิดปรากฏการณ์พิเศษในระหว่างการซื้อขายภาคเช้าเวลา 10.42 น. ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อดัชนีล่วงหน้า SSEC ของตลาดได้ร่วงผล็อยอย่างกะทันหันรุนแรงมากถึง 10%  ก่อนที่อีกภายใน 1 นาทีจากนั้น ดัชนีก็พลิกกลับคืนสู่สภาพเดิมตามปกติที่ระดับเดิม

ความผิดปกติของของการซื้อขายดังกล่าว เกิดจากคำสั่งซื้อผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ภายใน 1 นาทีนั้น สัญญาซื้อขายได้เกิดขึ้นไปแล้วประมาณ 1,500 สัญญา ซึ่งเมื่อเทียบกับมูลค่าและปริมาณสัญญาที่ซื้อขายกันระหว่างวัน มีสัดส่วนน้อยมากสำหรับตลาดเซี่ยงไฮ้ที่มีมูลค่าซื้อขายจำนวนมากที่สุดในโลกยามนี้

เจ้าหน้าที่ของตลาดตราสารอนุพัน์ของจีน กำลังเข้าไปตรวจสอบข้อบกพร่องและผิดปกติในธุรกรรมในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถสรุปผลออกมาได้ชัดเจน เพราะยังงุนงงพอสมควรว่ามีความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น

ความผิดปกติที่ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ตอนสายวานนี้ มีคนให้ข้อสังเกตว่า คล้ายคลึงกันกับปรากฏการณ์ทำนองเดียวกันที่เคยเกิดกับระบบซื้อขายของตลาดล่วงหน้าของฮ่องกง Hang Seng China Enterprises Index futures (ซึ่งเป็นตลาดที่คึกคักมากที่สุดในโลกยามนี้) เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมนี้เอง จากการร่วงลง และกลับฟื้นตัวขึ้นในฉับพลัน ของดัชนีอนุพันธ์ล่วงหน้าประจำเดือนกรกฎาคมของตลาด ในยามที่นักลงทุนในฮ่องกงพากันกังวลต่อความอ่อนแอและไร้เสถียรภาพของเศรษฐกิจจีน

ในเบื้องต้น นักวิเคราะห์ประเมินว่า ปรากฏการณ์ที่ผิดปกติดังกล่าวน่าจะเกิดจากการที่ช่วงจังหวะที่เกิดเหตุนั้น บังเอิญมีคำสั่งซื้อขายลดฮวบลงกะทันหัน เปิดช่องให้คำสั่งซื้อขายที่เข้ามามากเกินปกติ (และเป็นคำสั่งขายล่วงหน้าหรือ ชอร์ต โพสิชั่น) สามารถส่งผลในทางลบต่อตลาดชั่วคราวเกิดเป็นโมเมนตัมที่ควบคุมไม่ได้ในช่วงเวลาฉับพลันทันด่วน

คำอธิบายสั้นและง่ายดังกล่าว ไม่ใช่มุมมองของเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์จีนเห็นพ้องด้วย เพราะสำหรับคนที่กำกับดูแลตลาด ที่ต้องมีคำอธิบายมากกว่าปกติถึงปัญหาคำสั่งซื้อขายที่ผิดปกติธรรมดาว่า จะต้องเกิดจากเจตนาที่พิสดารหรือพิกลพิการ ที่ผลลัพธ์รุนแรงเกินคาดในรูปแบบ “ผลสะเทือนผีเสื้อ” (Butterfly Effect)

การสืบค้นหาสาเหตุที่ละเอียดรอบคอบของหน่วยงานกำกับดูแลตลาดของซี่ยงไฮ้ มีแรงกดดันว่า จะต้องไม่ให้เหตุบกพร่องดังกล่าวลุกลามไปจนกระทั่งนักลงทุนทั้งในประเทศจีน และทุนต่างชาติ พากันเอือมระอาขึ้นมา จนต้องถอนตัวออกมา หลังจากที่เคยเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา จากการที่ทางหน่วยงานรัฐจีนขาดประสบการณ์รับมือต่อแรงท่วมท้นของการเก็งกำไรในตลาดหุ้นมากเกินขนาด จนเข้าข่ายฟองสบู่แตก

ความไม่คุ้นเคยกับโมเมนตัมอย่างผิดธรรมชาติของตลาดหุ้น ทำให้จีนพยายาม “หาแพะ” มากกว่า เพราะเกรงว่า ความเสื่อมศรัทธาที่เกิดขึ้นนี้ จะลุกลามไปจนถึงขั้นเลวร้าย  จนกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ท่ามกลางปัญหาที่ต้องแก้กันให้เร็วยิ่งขึ้น จนกระทั่งมีคำถามว่าจีนจะประกาศลดค่าเงินหยวนเทียบดอลลาร์เป็นทางการหรือไม่ หลังจากที่เกิดปรากฏการณ์ค่าเงินหยวนดิ่งต่ำสุดรอบกว่า 5 ปี เมื่อเทียบกับดอลลาร์ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011

ความผิดปกติของตลาดเซี่ยงไฮ้วานนี้ จะอยู่ในความทรงจำและน่าใคร่ครวญอยู่พอสมควร

Back to top button