IVL บวก 2.74% ลุ้นกำไร Q2 โตเด่น รับไฮซีซั่นธุรกิจเม็ดพลาสติก PET
IVL บวก 2.74% ลุ้นกำไร Q2 โตโดดเด่น รับช่วงไฮซีซั่นธุรกิจเม็ดพลาสติก PET – รับรู้รายได้ธุรกิจผลิตสิ่งทอยางในรถยนต์ ล่าสุด ณ เวลา 11.06 น. ราคาอยู่ที่ 37.50 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 2.74% สูงสุดที่ 37.50 บาท ต่ำสุดที่ 36.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 477.27 ล้านบาท โบรกฯ แนะ “ซื้อ” ชูเป้า 43 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ณ เวลา 11.06 น. ราคาอยู่ที่ 37.50 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 2.74% สูงสุดที่ 37.50 บาท ต่ำสุดที่ 36.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 477.27 ล้านบาท
นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล กรรมการ IVL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในระยะ 4 ปี (60-63) เพิ่มขึ้นที่ 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 3.5 หมื่นล้านบาท โดยหลักจะใช้ในการขยายกำลังการผลิตสำหรับธุรกิจในปัจจุบัน และรองรับการเข้าซื้อกิจการใหม่เพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้บริษัทศึกษาการลงทุนในธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มในทุกทวีปทั่วโลก เพราะปัจจุบันมีสินทรัพย์ที่รอการขายอยู่ในตลาดจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ได้เจาะจงผลิตภัณฑ์ใดเป็นพิเศษ
สำหรับผลประกอบการในปีนี้บริษัทยังคงเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.63 แสนล้านบาท พร้อมทั้งตั้งเป้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม (EBITDA) เติบโตราว 10.5% จากปีก่อนที่มี EBITDA ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตตามกำลังการผลิตรวมที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 9.2 ล้านตัน จากปีก่อนอยู่ที่ 8.7 ล้านตัน ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น และยังไม่เห็นความเสี่ยงที่จะมากระทบผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
ประกอบกับล่าสุดบริษัทได้เข้าซื้อกิจการธุรกิจผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์ในยุโรป ซึ่งเป็นกลยุทธ์ขยายผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท คาดว่ากระบวนการเข้าซื้อกิจการจะแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 2/60 และจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2-3 นี้ทันที เบื้องต้นประเมินว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทราว 7 พันล้านบาท/ปี
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/60 มีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจ PET ค่อนข้างสูง รวมถึงธุรกิจอื่นๆของบริษัทมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง
ด้านบล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” IVL ราคาเป้าหมาย 43 บาท/หุ้น โดยแนวโน้มกำไรหลักของ IVL คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องทั้งจากปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ในไตรมาส 2/60 หนุนโดยปริมาณการขาย PET ที่มากขึ้นและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ขยายตัวขึ้น ปริมาณการขายในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะขยายตัวจากปีก่อน และจากไตรมาสก่อน หนุนโดยสินทรัพย์ซึ่งซื้อกิจการมาในปีที่แล้ว (ได้เริ่มรับรู้เต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 3/59) และช่วงไฮซีซั่นของอุปสงค์ต่อเม็ดพลาสติก PET ทั้งนี้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โดยรวมคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งจากปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เช่นกัน หนุนโดยส่วนต่างราคา PET, PTA และ HVA ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้กำไรจากธุรกิจ PET, PTA และ HVAที่สูงขึ้นคาดว่าจะสามารถกลบผลกระทบจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน EOEG ตามแผนในระหว่างไตรมาสได้