ชง 14 บจ.เด่นมีประเด็นดันกำไรโตSET สร้างฐานใหม่หลังติดแนวต้าน

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยพักฐานหลังไม่ผ่านแนวต้าน 1,572-1,575 จุด อย่างไรก็ตามเชื่อว่า เป้าหมาย 1,600-1,620 จุด ในระยะ 1-3 เดือน ยังไม่เสียหาย กลุ่ม ICT จะเป็นกลุ่มต่อไปที่จะประกาศงบไตรมาส 1/58 ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซึ่งภาพรวมของ 2 กลุ่มจะฟื้นตัวเด่นยังไม่เสียหายจากปัจจัยบวกภายในประเทศ


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.09 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.37 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังเยนอ่อนค่าช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยพักฐานหลังไม่ผ่านแนวต้าน 1,572-1,575 จุด อย่างไรก็ตามเชื่อว่า เป้าหมาย 1,600-1,620 จุด ในระยะ 1-3 เดือน ยังไม่เสียหาย ขณะที่มูลค่าการซื้อขายชะลอตัวเพื่อสร้างฐานไต่ระดับขึ้นอีกครั้ง โดยกลุ่ม ICT จะเป็นกลุ่มต่อไปที่จะประกาศงบไตรมาส 1/58 ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซึ่งภาพรวมของ 2 กลุ่มจะฟื้นตัวเด่นจากปัจจัยบวกภายในประเทศ หุ้นเด่นเลือก ITD-TASCO-TPIPL-WHA-GOLD-ADVANC-CSS-SIRI-AAV-SAWAD-VNG-RCL-EFORL และ UV

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (23 เม.ย.) คงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 21 หลัง SET INDEX ปรับฐานลงปิด Gap บริเวณ 1,550-1,560 จุดที่เปิดไว้วันที่ 16 เม.ย. อีกทั้งสถาบันทั้งในและต่างประเทศต่างปรับน้ำหนักกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะหุ้นที่งบออกมาต่ำกว่าคาด KTB พร้อมที่ประชุมนักวิเคราะห์ส่งสัญญาณการเติบโตของสินเชื่อจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในต้นปี

ด้านราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เริ่มทรงตัวบริเวณ US$55/barrel +/- ทำให้ภาพรวมในช่วงสั้นนี้ SET INDEX จะแกว่งออกด้านข้าง ระหว่าง 1,550-1,560 จุด มูลค่าการซื้อขายชะลอตัว เพื่อเป็นการสร้างฐานเพื่อไต่ระดับขึ้นอีกครั้ง โดยกลุ่ม ICT จะเป็นกลุ่มต่อไปที่จะประกาศงบไตรมาส 1/58 ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซึ่งภาพรวมของ 2 กลุ่มจะฟื้นตัวเด่น

ขณะที่ทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรไทยที่ลดลงแรงวานนี้ อาจสะท้อนถึงมุมมองของตลาดต่อโอกาสที่การประชุม กนง. วันที่ 29 เม.ย. จะถูกแรงกดดันให้พิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย RP1 วันอีก 25bps เป็น 1.50% เพื่อให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการช่วยภาคการส่งออกทางอ้อมส่วนหนึ่ง และอาจเป็นจิตวิทยาเชิงบวกระยะสั้นๆ ต่อกลุ่มอสังหาฯ ได้เช่นกัน

อีกทั้งปลายสัปดาห์นี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างรอดูผลการเจรจาระหว่าง กรีซ และ เจ้าหนี้อียู ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้า ภายใต้เส้นตายการเจรจาวันที่ 24 เม.ย. เป็นอีกปัจจัยที่จำกัด Upside ในช่วงสั้น

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “นักลงทุนอาจซื้อเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายบางส่วนเพิ่มเติม” เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,580 จุด +/-

Top Pick in Q2/15: ITD/TASCO/TPIPL/WHA

Accumulative Buy: TASCO

Speculative Buy: GOLD

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (23 เม.ย.) ว่า แม้ SET เริ่ม “พักฐาน” หลังไม่สามารถทำลายแนวต้าน 1,572-1,575 จุด แต่คาดว่าจะไม่ทำให้แนวโน้มหลักเสียหาย (เว้นแต่ว่าจะหลุด 1,545 จุด) และคงเป้าหมาย 1,600-1,620 จุด ในระยะ 1-3 เดือน จาก 1) ความคืบหน้าร่างรัฐธรรมนูญ 2) การลงทุนภาครัฐฯที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น  ครม.ดันเซ็นรถไฟรางคู่ ภายในไตรมาส 2/15  3) สภาพคล่องในประเทศสูง

แนะนำ “ซื้อ” AAV เป้าหมายพื้นฐาน 6.50 บาท จาก 1) คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/15 เติบโต 100% ที่ 500 ล้านบาท 2) ไม่มี Charter Flight และ 3) คาดปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยเสร็จ ก.ค.นี้ และแนะนำ “ซื้อ” SAWAD จาก 1) กำไรไตรมาส 1/15 เติบโตดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน จากต้นทุนการเงินลด ฐานเงินกู้สูง 2) กำไรเติบโต 40% ต่อปีในระยะ 1-4 ปีข้างหน้า 3) ได้รับผลดีดอกเบี้ยต่ำ ลุ้น กนง.29 เม.ย. 3) รอรับ XD+XW วันที่ 29 เม.ย.นี้

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (23 เม.ย.)ว่า ตลาดน่าจะรับรู้ผลประกอบการกลุ่มสถาบันการเงิน นับจากนี้น่าจะให้ความสนใจต่อหุ้นภาคการผลิตรายตัวที่คาดว่าจะมีผลกำไรที่สดใส ทำให้วันนี้ยังเลือก VNG ([email protected]) และ RCL (FV@B12)เป็น Top picks ล่าสุดดัชนี HRCI ปรับขึ้น 2.4% รายสัปดาห์ติดต่อเป็นสัปดาห์ที่ 16

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (23 เม.ย.)ว่า ทิศทางตลาดผันผวนแม้ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ แต่ภายใต้ประเด็นต่างประเทศที่คาดยังกดดัน 1) คาดยังมีความกังวลสถานการณ์ในกรีซ โดยเฉพาะประเด็นหนี้ที่จะครบกำหนดชำระต่อ IMF ในวันที่ 1 และ 12 พ.ค.นี้ ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 1.95 แสนล้านยูโร และ 750 ล้านยูโร ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ติดตามว่ากรีซจะยื่นข้อเสนอมาตรการปฏิรูปฉบับแก้ไขแล้วต่อยูโรกรุ๊ปหรือไม่ โดยจะมีการประชุมในวันที่ 24/4/58 นี้ และ 2) ความไม่แน่นอนว่าระยะเวลาที่เฟดอาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะมีการประชุมเฟดในวันที่ 28-29/4/58 นี้

ด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยบวกจากประเด็น Fund Flow หลังต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และทำให้ตั้งแต่ตั้นปีพลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิสะสม ประมาณ 1,400 ล้านบาท ขณะที่ยังเป็นช่วงประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58 คาดยังมีแรงเก็งกำไรต่อในกลุ่ม Real Sector ที่ทยอยจนถึงกลางเดือนพ.ค. แต่คาดได้รับปัจจัยกดดันบ้างจากกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลง

และยังแนะนำให้ติดตาม การประมูล 4G ที่ คาด ADVANC รวมถึงกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการวางโครงข่ายเสา เช่น CSS เป็นต้น

หุ้นแนะนำ: SIRI

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (23 เม.ย.)คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค ดัชนีตลาดปรับลงเมื่อวานนี้และปิดที่เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 วันพอดีแต่ยังสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ขณะที่ MACD แสดงค่าเป็นบวกลดลงเล็กน้อยแต่ยังสูงกว่า signal line ภาพหลักยังเป็นทิศทางขาขึ้น การปรับลงที่เส้นค่าเฉลี่ยทำให้ดัชนีไม่อยู่สูงมากเกินไป ทำให้ทิศทางในระยะใกล้นี้ SET มีโอกาสจะขึ้นไปทดสอบ 1,580 จุดใหม่อีกครั้ง

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,552-1,570

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร EFORL และ UV

Back to top button