TSR ผลงานกลับมาโตเด่น แนะซื้อเป้า 5.7 บ. ชูอัพไซด์ 29%

TSR ผลงานกลับมาโตเด่น แนะซื้อเป้า 5.7 บ. ชูอัพไซด์ 29%


บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(20ก.ค.) ว่า บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR แม้ปีนี้ฤดูฝนมาเร็วกว่าปกติทำให้อุตสาหกรรมจำหน่ายสินค้าในประเทศทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและน้ำดื่มไม่สดใส ซึ่งสะท้อนได้จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่พบว่าช่วงเม.ย.-พ.ค. 60 ประเทศไทยมียอดจำหน่ายสินค้าน้ำดื่มบริสุทธิ์ หดตัว 6.7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (สินค้าทดแทนเครื่องกรองน้ำ), เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน (Condensing Unit) หดตัว 28.4%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน (Fan coil unit) หดตัว 27.2%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, ตู้เย็นโตเล็กน้อย 0.9%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เครื่องซักผ้าโต 6.5%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เราคาดช่วงไตรมาส 2/60 TSR จะมีรายได้จากการผลิตและจำหน่าย หดตัว 1.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

อีกทั้งช่วงครึ่งแรกปี 60 บริษัทได้เพิ่มพนักขายเพื่อรุกตลาดประเทศลาว และเปิดสาขาเพิ่มอีก 1 แห่ง ส่งผลให้คาด SG&A/Sales จะสูงขึ้นเป็น 71.5% จากช่วงไตรมาส2/59 ที่ 67.9% แต่ปัจจัยลบทั้งหมดคาดถูกชดเชยด้วยแผนคุมเข้มนโยบายขายเชื่อ พร้อมกับการนำเทคโนโลยีระบบ Cloud และ Mobile Application มาช่วยบริหารจัดการลูกหนี้ จึงคาดค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลง 17.6%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้คาดช่วงไตรมาส 2/60 TSR จะมีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท ยังโตเด่น 75.0%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดมี Net Margin เพิ่มเป็น 5.0% จากช่วงไตรมาส2/59 ที่ 2.8%

แม้ช่วง 1H60 ผลดำเนินงานจะชะลอตัวจากฐานปีก่อนที่สูง แต่ช่วง 2H60 คาดกำไรจะกลับมาโตทั้ง HoH และ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยปัจจัยหนุน ดังนี้ 1) การเพิ่มความเข้มข้นในกลยุทธ์การขาย ได้แก่ การเพิ่มสาขา (ปีนี้มีแผนจะเพิ่มอีก 2-4 สาขา จากปัจจุบันที่ 21 สาขา 3 ศูนย์บริการ) การเพิ่มพนักงานขาย และการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าด้วยสื่อออนไลน์ 2) แนวโน้มค่าใช้จ่ายหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญลดลง หลังบริษัทนำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการลูกหนี้ และ 3) แผนรุกตลาดประเทศลาวด้วยเครื่องกรองน้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่งผลให้ยังคงประมาณการเดิม โดยคาดปี 2560 TSR จะมีกำไรสุทธิ 170 ล้านบาท พลิกกลับมาโตเด่น 111.4%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

เพื่อสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่จะพลิกกลับมาโตโดดเด่นอีกครั้ง อีกทั้งมี Upside 29.0% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2560 ที่ 5.70 บาท (อิง PER 22x และ Fully diluted EPS จากการใช้สิทธิ์ TSR-W1) และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรทั้งปี 2560 ที่หุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็น Div. Yield 3.5% จึงคงแนะนำ “ซื้อ”

Back to top button