TSI เงินร่อยหรอ-ผลงานย่ำแย่! ดิ้นเพิ่มทุน PP กว่า 111 ล้านบาท ก่อนคปภ.สั่งหยุดกิจการ

TSI เพิ่มทุนหนีตาย 185 ล้านหุ้น เสนอขาย PP ราคา 0.60 บาท/หุ้น หวังคงอัตราส่วนเงินกองทุนฯตามเกณฑ์ก่อนถูกระงับให้บริการธุรกิจประกันภัย


บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TSI ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) อนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้จำหน่ายออก หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 185 ล้านบาท เป็น 1.33 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 185 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้กับนักลงทุนในวงจำกัด (PP) จำนวน 4 ราย ที่ราคาหุ้นละ 0.60 บาท

สำหรับนักลงทุน 4 ราย ประกอบด้วย นายชัยวิทย์ อรุณเนตรทอง จำนวน 83.33 ล้านหุ้น ,นายสาธิต สัจจะมุนีวงศ์  จำนวน 12 ล้านหุ้น ,นายวิโรจน์ นูคำดี จำนวน 66.67 ล้านหุ้น และนางสุพิน ศิริโภค จำนวน 23 ล้านหุ้น

ทั้งนี้การเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อดำรงอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจการประกันภัย (คปภ.) กำหนด โดย ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2560 บริษัทมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR Ratio) ร้อยละ 103.66 ซึ่งตามหลักเกณฑ์ของ คปภ. บริษัทจะต้องดำรงอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนมากกว่าร้อยละ 140

 

จากการตรวจสอบข้อมูลของ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” พบว่า การที่สำนักงาน คปภ. กำหนดให้การกำกับเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital :RBC) เพื่อให้บริษัทประกันภัยมีเงินกองทุนเพียงพอที่จะรองรับความสูญเสีย หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งกำหนดอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนสำหรับการเข้าแทรกแซงบริษัท (Solvency CAR) เท่ากับ ร้อยละ 140

โดยเกณฑ์ RBC ที่จะใช้นี้จะวัดระดับเงินกองทุน 2 ขั้น คือ – ต่ำกว่าร้อยละ 125 บริษัทประกันภัยยังสามารถรับประกันภัยได้อยู่ แต่จะให้จัดทำแผนแก้ไขฐานะการเงิน ซึ่งระหว่างนั้นจะถูกสั่งห้ามลงทุนหรือขยายธุรกิจใดๆ เพิ่มเติมต่ำกว่าร้อยละ 100 หากเป็นบริษัทประกันวินาศภัยจะถูกสั่งหยุดรับประกันภัยชั่วคราวทันที ส่วนบริษัทประกันชีวิต จะถูกเข้าควบคุมกิจการ

ดังนั้นการเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้เพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอต่อเกณฑ์ดังกล่าว เพื่อที่จะไม่ถูกหยุดห้ามทำธุรกิจประกันภัย เนื่องจากที่ผ่านมา TSI  ยังประสบกับผลขาดทุนสุทธิโดยปี 2559 บริษัทมีผลขาดทุน 183.43 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนมีผลขาดทุน 96.08 ล้านบาท ด้านหนี้สินรวมมีทั้งหมด 1,407 ล้านบาท ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 149.11 ล้านบาท เท่านั้น

Back to top button