25 หุ้นอันตราย! ประเดิมติดป้าย CB

หลังจากปล่อยให้หุ้นแปลกปลอมเข้ามาป่วนตลาดฯ อยู่นานสองนาน อย่างหุ้นบางตัวออกฤทธิ์ออกเดชตั้งแต่ย่างเท้าเข้าตลาดฯ


หลังจากปล่อยให้หุ้นแปลกปลอมเข้ามาป่วนตลาดฯ อยู่นานสองนาน อย่างหุ้นบางตัวออกฤทธิ์ออกเดชตั้งแต่ย่างเท้าเข้าตลาดฯ ขณะที่บางตัวก็วิ่งพรวดพราดแบบ No.สน No.แคร์ ปัจจัยพื้นฐาน หรือบางตัวงบเละเทะ มีชนักติดหลัง แต่กลับวิ่งแรงงงส์แซงทางโค้งซะงั้น…

ร้อนถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าของตลาด หรือผู้คุมกฎ ต้องรีบหยิบกฎเกณฑ์มาปัดฝุ่นใหม่ให้เข้มงวดขึ้น เพื่อหวังสกัดหุ้นแปลกปลอมดังกล่าว..!!

ถึงแม้จะเหมือนวัวหายแล้วล้อมคอก เอาน่า…คอกใหม่ก็คงสะอาดและน่าอยู่มากขึ้นละมั้ง..??

ซึ่งหนึ่งในกฎเหล็กที่ว่าก็คือ การขึ้นเครื่องหมาย C เพื่อเตือนนักลงทุนว่าหุ้นตัวนั้นมีปัญหาด้านฐานะการเงิน หรือสภาพคล่อง จากเดิมที่มี C แบบรวมอย่างเดียว ก็เพิ่ม C โน่น C นั่นขึ้นมา

เริ่มจาก CB สำหรับหุ้นที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว หรือศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ หรือหน่วยงานสั่งให้แก้ไขฐานะการเงิน หรือขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี จนทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าทุนชำระแล้ว หรือผิดนัดชำระหนี้สถาบันการเงินหรือตราสารหนี้ หรือมีรายได้จากการดำเนินงานต่ำกว่า 100 ล้านบาท สำหรับบจ.ใน SET และน้อยกว่า 50 ล้านบาท สำหรับบจ.ใน mai

ถัดมา CS เป็นหุ้นที่มีปัญหาเรื่องงบการเงิน เช่น ผู้สอบบัญชียังไม่แสดงความคิดเห็น หรือ ก.ล.ต. สั่งให้แก้ไขงบ หรือทำสเปเชียลออดิต

ส่วน CC หุ้นที่มีปัญหา ไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์ เช่น Audit Committee ไม่ครบ หรือเป็น Cash Company

และเครื่องหมาย CF สำหรับหุ้นที่มีปัญหาฟรีโฟลตไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ต้องไม่น้อยกว่า 15% และไม่น้อยกว่า 150 ราย

ล่าสุดก็มี 25 บจ.ที่ติดโผถูกแขวนป้าย CB โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก จากกรณีส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว ซึ่งมี 24 บจ.ด้วยกัน ได้แก่ 1.บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AKS 2.บริษัท บี-52 แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ B52 3.บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET 4.บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE

5.บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL 6.บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC 7.บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON 8. บริษัท กรีนเทค เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ GTV 9.บริษัท ไฮโดรเท็ค จำกัด (มหาชน) หรือ HYDRO 10.บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JCKH

11.บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC 12.บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KKC 13.บริษัท เคดับบลิวไอ จำกัด (มหาชน) หรือ KWI 14.บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ NATION 15.บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ NEP 16.บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS 17.บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ PPPM 18.บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SDC

19.บริษัท สกาย ทาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STOWER 20.บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT 21.บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC 22.บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TSI 23.บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS 24.บริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ W

ส่วนบจ.สุดท้ายเป็นหุ้นนางงาม บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ซึ่งถูกขึ้นเครื่องหมาย CB จากกรณีศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ

โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 มี.ค. 2567 นี้ นั่นจะทำให้หุ้นทั้ง 25 ตัว จะต้องซื้อขายด้วยบัญชี Cash Balance เท่านั้น และต้องจัด Public Presentation ภายใน 15 วัน และทุกไตรมาสจนกว่าจะแก้ไขเหตุได้

ทั้ง 25 บจ.จะหาทางแก้ปัญหาชีวิตยังไง…? เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

แต่อย่างน้อย ๆ นักลงทุนที่ชอบเสี่ยงจะได้ฉุกคิดสักนิดว่า กำลังเล่นกับไฟอยู่นะ…หากผิดพลาดเกิดไฟลวกมือขึ้นมา (ติดหุ้น) จะมาร้องแรกแหกกระเชอทีหลังไม่ได้นะ…

เพราะเค้าเตือนคุณแล้ว..!??

… อิ อิ อิ…

Back to top button