CENTEL บวกเกือบ 4% นิวไฮตั้งแต่เข้าตลาดฯ รับไฮซีซั่น

CENTEL บวกเกือบ 4% นิวไฮตั้งแต่เข้าตลาดฯ รับไฮซีซั่น ล่าสุด ณ เวลา 15.10 น. ราคาอยู่ที่ 56.25 บาท บวก 2 บาท หรือ 3.69% สูงสุดที่ 56.75 บาท ต่ำสุดที่ 54.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 169.34 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ล่าสุด ณ เวลา 15.10 น. อยู่ที่ 56.25 บาท บวก 2 บาท หรือ 3.69% สูงสุดที่ 56.75 บาท ต่ำสุดที่ 54.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 169.34 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยบวก 0.12% ทั้งนี้ราคาหุ้น CENTEL ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2533

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่ามาจากการที่ธุรกิจฟื้นตัวในช่วงไฮซีซั่น พร้อมทั้งคาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้าน บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ธ.ค.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 60 บาท/หุ้น นักลงทุนเชื่อว่า CENTEL เป็นบริษัทที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากรายได้กว่า 81% ของบริษัทมาจากประเทศไทย โดยแบ่งเป็นจากกรุงเทพฯ (28% ของรายได้ธุรกิจโรงแรม) และต่างจังหวัด (53% ของรายได้ธุรกิจโรงแรม)

นอกเหนือจากนี้ CENTELจะเป็นบริษัทที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในกกลุ่มฯ หากรัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้กับชาวไทยเนื่องจากบริษัทมีโรงแรมในหลายจังหวัดที่ได้รับความนิยมสูงทั่วประเทศ H ภูเก็ต, พัทยา, หัวหิน, สมุย, กระบี่, หาดใหญ่ และตาก เป็นต้น

อีกทั้ง CENTEL ยังเป็นบริษัทที่น่าเล่นรับการบริโภคในประเทศฟื้นตัว เนื่องจากรายได้จากธุรกิจอาหารของบริษัททั้งหมดมาจากร้านค้าในประเทศ (56% ของร้านค้าอยู่ในภาคกลาง, 16% อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 10% อยู่ในภาคตะวันออก, 8% อยู่ในภาคใต้, 7% อยู่ในภาคเหหนือ และ 4% อยู่ในภาคตะวันตก)

สำหรับ Cosi โรงแรมแบรนด์ใหม่จาก CENTEL ได้เข้ามาบุกตลาดในราคา 1,000-1,500 บาท/คืน สาขาแรก โคซี่ สมุย หาดแฉวง ถูกเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการในสัปดาห์ที่แล้ว โดยโรงแรมตั้งอยู่ถัดจากเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย และห่างจากสนามบินเพียง 15 นาที บริษัทจะเพิ่มห้องพักอีก 151 ยูนิต ส่งผลให้ห้องพักที่ CENTEL เป็นเจ้าของเองมากขึ้น 4% ขณะที่ Cosi แห่งถัดไปจะอยู่ในพัทยา

โดยจะมีห้องพัก 280 ยูนิต ซึ่งจะเปิดในปี 2562 ต่อมาแห่งที่สามคาดที่เชียงใหม่ สำหรับระยะยาวนั้น CENTEL ตั้งเป้าจะมี Cosi จำนวน 20-25 โรงแรม โดย Cosi จะเป็นโรงแรมเน้นกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มเติมเพื่อเป็นโอกาสในกาสเติบโตของบริษัทในระยะยาว

ขณะเดียวกัน ผู้บริหารเปิดเผยแผนธุรกิจปี 2561 หนุนโดยการเติบโตของธุรกิจปกติ และอัพไซด์จากดีลซื้อกิจการใหม่ บริษัทตั้งเป้ารายได้ธุรกิจโรงแรมเติบโต 4-5% ในปี 2561 เทียบกับ 2-3% ในปี 2560 โดยหนึ่งปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโต คือ อัตราค่าห้องพัก ตั้งเป้ารายได้เฉลี่ยต่อห้องเติบโต 3-4% ในปี 2561 (เทียบกับ 2-3% ในปี 2560)

ขณะที่คาดอัตราการเข้าพักทรงตัวที่ 81-82% ในปีหน้า สำหรับปัจจัยหนุนให้ธุรกิจอาหารพลิกเป็นกำไรนั้น ได้แก่ การบริโภคในประเทศฟื้นตัว และการเลือกตั้งที่น่าจะเกิดขึ้นปลายปีหน้า บริษัทตั้งเป้ายอดขายสาขาเดิมของธุรกิจอาหารเติบโต 2-3% ในปี 2561 (ทรงตัวในปี 2560) โดยยอดขายรวมทุกสาขาเติบโต 7-8% (5-6% ในปีนี้) อีกทั้ง EBITDA margins ปี 2561 น่าจะขยายตัวเนื่องจากการดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตามคาดว่าผลประกอบการรายไตรมาสสำหรับไตรมาส 4/60 และ 1/61 จะกลับมาน่าดึงดูด หนุนโดยฐานต่ำในไตรมาส 4/59 และ 1/60 ซึ่งเป็นช่วงไว้อาลัย, ไฮซีซั่นในมัลดีฟ และฐานต่ำของเซนทารา แกรนด์ ภูเก็ต ในเดือนต.ค. 59 เนื่องจากเกิดเหตการณ์น้ำท่วม

รวมทั้งคาดกำไรหลักเติบโตแกร่งด้วยตัวเลขสองหลักจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และพุ่งแรงจากช่วงเดียวกันในตรมาสก่อน ในไตรมาส 4/60 และสำคัญที่สุด กำไรหลักไตรมาส 1/61 มีโอกาสทำจุดสูงสุดเป็นประวัติกาล หนุนโดยการฟื้นตัวในช่วงไฮซีซั่น

Back to top button