SPPT บวกแรง 3% ลุ้นปี 61 เทิร์นอะราวด์ หลังจ่อซื้อกิจการ-ร่วมทุนบริษัทด้าน IT

SPPT บวกแรง 3% ลุ้นปี 61 เทิร์นอะราวด์ หลังจ่อซื้อกิจการ-ร่วมทุนบริษัทด้าน IT ล่าสุด ณ เวลา 11.52 น. ราคาอยู่ที่ 5.40 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ 5.45 บาท ต่ำสุดที่ 5.20 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 16.32 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT ณ เวลา 11.52 น. ราคาอยู่ที่ 5.40 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ 5.45 บาท ต่ำสุดที่ 5.20 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 16.32 ล้านบาท

ทั้งนี้สาเหตุที่ราคาหุ้น SPPT ปรับตัวขึ้นแรง คาดว่ามาจากข่าวที่บริษัทเตรียมซื้อกิจการ และร่วมทุนธุรกิจด้าน IT ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนประมาณ 1-2 ดีล ในช่วงต้นปี 61 และมีแนวโน้มธุรกิจพลิกกลับมาเทิร์นอะราวด์

โดยเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (8 ธ.ค. 60) นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ ประธานกรรมการ SPPT เปิดเผยว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะขยายฐานรายได้ให้แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าซื้อหรือร่วมทุนในกิจการที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจไอที ซึ่งมีหลายรายที่เข้ามาเจรจา และตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องความคุ้มทุน อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ต้นปี 61 คาดว่าจะมีความชัดเจน 1-2 ดีล ดังนั้น จึงมั่นใจว่าผลประกอบการในปี 61 จะพลิกกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อย่างเต็มรูปแบบ

อีกทั้ง ล่าสุดที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560  เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.60 มีมติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้น บริษัท เทอร์ราไบท์ เน็ท โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TERA) จำนวน 87,720,000 หุ้น หรือคิดเป็น 51% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าลงทุนทั้งสิ้น 175.44 ล้านบาท เพื่อเป็นการขยายไลน์ธุรกิจจากการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มาสู่ธุรกิจวางระบบและให้บริการด้านไอที

อนึ่ง TERA เป็นผู้ดำเนินธุรกิจวางระบบและให้บริการด้านไอทีขนาดใหญ่แบบครบวงจร (System Integration – SI) เช่นระบบ Server, Storage, Network และ IT Security และมีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยปีละประมาณ 400 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี  มีคู่ค้าภาคเอกชนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ในหลายอุตสาหกรรม ไว้วางใจให้บริษัทเป็นผู้วางระบบ

“การตัดสินใจของ SPPT ในครั้งนี้ จะสามารถผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทเป็นไปในทิศทางที่ดีและเติบโตอย่างมั่นคง เนื่องจากความต้องการของตลาดยังมีอยู่สูง เราจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะได้มาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นจากงานโครงการต่างๆ ทั้งของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ที่มีมูลค่ารวมหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งสอดรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่จะผลักดันประเทศก้าวเข้าสู่ยุคสังคมดิจิทัลด้วย” นายปกรณ์ กล่าว

พร้อมกันนั้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ยังอนุมัติให้บริษัทจำหน่ายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของบริษัทฯบางส่วนในสวนอุตสาหกรรมอินทรา จ.สิงห์บุรี เนื้อที่รวม 10-1-65.0 ไร่ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 253 ล้านบาท ให้แก่บริษัท พรีม่า โกรท จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ตามแผนการปรับโครงสร้างกิจการ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและทิศทางของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนใน TERA และลงทุนอื่นๆ ตามความเหมาะสม ตลอดจนใช้คืนหนี้สินและเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

Back to top button