สื่อร่วง ดูดวงรุ่ง

“ระยะหลังดวงถูกคัดลอกลงโซเชียลโดยที่เราไม่ยินยอม ทำให้ผู้อ่านหันไปอ่านในโซเชียลแทนที่จะซื้อหนังสือ ทำให้เราสูญเสียผู้อ่าน …โซเชียลทำให้เราท้อใจ” ดำรง พุฒตาล กล่าวถึงสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ “คู่สร้างคู่สม” ปิดตัวเองหลังวางจำหน่ายมา 38 ปี เคยมียอดพิมพ์สูงสุดถึง 1.6 ล้านเล่ม


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

“ระยะหลังดวงถูกคัดลอกลงโซเชียลโดยที่เราไม่ยินยอม ทำให้ผู้อ่านหันไปอ่านในโซเชียลแทนที่จะซื้อหนังสือ ทำให้เราสูญเสียผู้อ่าน …โซเชียลทำให้เราท้อใจ” ดำรง พุฒตาล กล่าวถึงสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ “คู่สร้างคู่สม” ปิดตัวเองหลังวางจำหน่ายมา 38 ปี เคยมียอดพิมพ์สูงสุดถึง 1.6 ล้านเล่ม

ฟังแล้วก็เป็นตลกร้าย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพิ่งชี้ว่าธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์นิตยสาร เป็น 1 ใน 10 ธุรกิจดาวร่วงแห่งปี 2561 ขณะที่ธุรกิจความเชื่อ โหราศาสตร์ เครื่องรางของขลัง กลับเป็นดาวรุ่งแห่งปี แต่คู่สร้างคู่สมกลับถูกก๊อปเสียนี่

การที่สื่อสิ่งพิมพ์ หรือแม้แต่ทีวีดิจิทัล กำลังจะตาย สื่อออนไลน์กำลังรุ่ง ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ สื่อออนไลน์มีข้อดี “ประชาชนทุกคนเป็นสื่อได้” แม้อยู่ในยุคสมัยที่พยายามปิดกั้นความคิดเห็นเพียงไร รัฐและสื่อกระแสหลักก็ไม่สามารถผูกขาดข้อมูลข่าวสาร ยัดเยียดความคิด ชี้นำชักจูงสังคมฝ่ายเดียวได้

แต่สื่อออนไลน์ซึ่งพึ่งรายได้จากความนิยมของคนอ่าน ขายโฆษณาจากยอดคลิก (ซ้ำรายได้ส่วนใหญ่ยังไปตกกับแพลทฟอร์มอย่างเฟซบุ๊ก กูเกิล ยูทูบ) ก็เติบโตหรือตกต่ำไปตามคุณภาพและสติปัญญาของสังคมด้วยเช่นกัน

ทั้งๆที่โลกออนไลน์สามารถนำไปสู่ข้อมูลความรู้ที่ไม่จำกัด เรากลับเห็นสื่อคุณภาพจริงๆ อยู่ได้น้อยมาก ส่วนใหญ่จมอยู่กับข่าวดาราเซเลบส์ ข่าวกาก ข้อมูลก๊อป ข่าวฮือฮาไร้สาระ และกระแสดราม่าเป็นพักๆ พร้อมกับหมอดู ใบ้หวย และเน็ตไอดอลขายครีม

ไม่แปลกหรอกที่ไทยแลนด์ 4.0 จะเป็นยุคของเทคโนโลยีสื่อสาร อีคอมเมิร์ซ ปิโตรเคมี หรือ 10 อาชีพที่ ม.หอการค้าแถลงตามมาอีกที เช่น วิศวกรซอฟต์แวร์ นักออกแบบวิเคราะห์ระบบไอที แต่ไหงมีโหราศาสตร์ เครื่องรางของขลัง ขายครีม ร้านตัดผมแฟชั่น หรือถ้าเจาะจงเป็นอาชีพ ก็มีทั้งแพทย์ผิวหนัง นักวิทยาศาสตร์ความงาม เน็ตไอดอล

นี่มันสะท้อนคุณภาพสังคมไทย ไปถึงรากฐานทางการเมือง เศรษฐกิจ

ในขณะที่ธุรกิจดาวร่วงหรืออาชีพที่ไม่โดดเด่น ฟังแล้วก็หดหู่ แม้ส่วนหนึ่งคือพวกตกเทรนด์เทคโนโลยี เคเบิลทีวี ดีวีดี โทรศัพท์พื้นฐาน ร้านอินเทอร์เน็ต ฯลฯ แต่ที่สำคัญคือการผลิตสินค้าเกษตร ยาง ปาล์ม ข้าว เช่นเดียวกับอาชีพเกษตรกร ซึ่งอย่าลืมว่ามีถึง 10 กว่าล้านคน บวกแรงงานไร้ฝีมือ ไม่รู้อีกเท่าไหร่

ตลกไหม อาชีพที่จะตกต่ำยังได้แก่ ครูอาจารย์ บรรณารักษ์ (ไม่ต้องนับสื่อ ซึ่งรู้กัน) ขณะที่ติวเตอร์ ครูสอนพิเศษ กลับเป็นดาวรุ่ง (น่าจะนับไลฟ์โค้ชชิ่งด้วย) นี่สะท้อนอะไร สะท้อนว่าไม่ต้องการความรู้ ความคิด ขอให้ “ต่อยอด” ได้เท่านั้น?

ธุรกิจที่ไม่มีดีไซน์ ร้านค้าดั้งเดิม ก็อยู่ในกลุ่มกำลังจะตาย ถ้าเทียบร้านอาหาร ก็มองอนาคตได้ว่าร้านที่ขายรสชาติอาจอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีดาวมิชลิน ไม่สู้แต่งร้านให้สวยหรู มีเอกลักษณ์ สำหรับลูกค้าเซลฟีอาหารรสดีพอประมาณ แต่บวกราคาสูงกว่าเดิม 3-4 เท่า

อนาคตไทยแลนด์ 4.0 จึงมองได้ว่าอยู่ในมือของธุรกิจใหญ่ พัฒนาไปสู่ AI เทคโนโลยีที่ใช้แรงงานมากฝีมือจำนวนน้อย คนมีความสามารถพื้นๆ จะไม่มีที่ยืน เว้นแต่ฝากฝังเข้าระบบราชการ คนทั่วๆไปจะต้องทำอาชีพอิสระ ซึ่งจะแข่งขันกันมากขึ้น โดยความสามารถไม่ใช่เรื่องสำคัญ การตลาดต้องมาก่อน

อันที่จริงมันก็เป็นเทรนด์ของโลก แต่ดูดวง ขายครีม รักษาสิว เทรนด์ฉาบฉวยเอาแต่เปลือกนี่สิ น่าสงสัยว่าไทยแลนด์โอนลี่หรือเปล่า

Back to top button