เก็งกำไรสี่หุ้นเด็ดกลุ่มยานยนต์

จากข้อมูล ส.อ.ท. รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2560 ที่ 1.90 แสนคัน สูงขึ้น 11.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดส่งออกที่ 1.03 แสนคัน เพิ่มขึ้น 4.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนตลาดในประเทศมียอดจำหน่ายสูงขึ้น 20.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมาที่ 0.78 แสนคัน


เส้นทางนักลงทุน

จากข้อมูล ส.อ.ท. รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2560 ที่ 1.90 แสนคัน สูงขึ้น 11.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดส่งออกที่ 1.03 แสนคัน เพิ่มขึ้น 4.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนตลาดในประเทศมียอดจำหน่ายสูงขึ้น 20.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมาที่ 0.78 แสนคัน

ขณะที่รวม 11 เดือนแรกของปี 2560 ปริมาณผลิตรถยนต์อยู่ที่ 1.83 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 1.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ภาคส่งออกย่อตัวลง 5.3%  จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 1.04 ล้านคัน หากตลาดในประเทศยังโตได้ดี 12.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 0.77 ล้านคัน

นอกจากนี้ ตลาดรถยนต์เดือนธันวาคม 2560 คาดว่ายอดผลิตจะออกมาดีกว่าประเมินก่อนหน้าเล็กน้อย จากงานมอเตอร์เอ็กซ์โปที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11ธันวาคม 2560 ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มียอดจองรวมทั้งสิ้น 39,832 คัน สูงขึ้น 22.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม แต่ในเดือนธันวาคม มีวันหยุดยาวอยู่มาก เมื่อนำไปรวมกับเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2560 น่าจะทำให้ยอดผลิตในไตรมาส 4 ปี 2560 อยู่ที่ราว 4.97 แสนคัน ปรับตัวดีขึ้น 6.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่อ่อนตัว 5.7% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้หากรวมยอดผลิตทั้งปี 2560 คาดจะจบที่ 1.97 ล้านคัน สูงขึ้น 1.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ในปี 2561 คาดยอดผลิตจะปรับตัวสูงขึ้น 2.0% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมาที่ 2.0 ล้านคัน จากตลาดในประเทศปรับตัวดีต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งคาดเป็นผลจากการลงทุนภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัว ภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ตลอดจนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่

ด้วยยอดผลิตรถยนต์ที่กลับมาฟื้นตัวทำให้เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ STANLY, AH, SAT และ PCSGH เป็นต้น

เนื่องด้วยทาง บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ส่องสว่างยานยนต์ ได้แก่ หลอดไฟ ชุดโคมไฟ และแม่พิมพ์ โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัท การผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยและประสิทธิภาพสูง ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล และมาตรฐานของลูกค้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป แนะนำ “ทยอยซื้อ” STANLY ให้ราคาพื้นฐานปี 2561 ที่ 252 บาท เชื่อว่าผลประกอบการทั้งปีจะขยายตัวเด่นจากปีก่อนหน้ามาก จากการมีงานใหม่ๆ เข้ามา  การควบคุมการผลิตที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งไม่มีภาระค่าใช้จ่ายทางการเงิน

ต่อมา บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ออกแบบผลิตและติดตั้งอุปกรณ์จับยึดเพื่อประกอบรถยนต์ ออกแบบและผลิตอุปกรณ์แม่พิมพ์ปั๊มโลหะและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ได้แก่ ชิ้นส่วนพื้นรถ เหล็กขวาง ตัวค้ำ ตัวยึด ถังน้ำมัน เป็นต้น และมีบริษัทย่อยและบริษัทร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ และเป็นผู้พัฒนาและจำหน่ายระบบนำร่องการเดินทางและให้บริการด้านเทคโนโลยีการเดินทาง

อย่างไรก็ดี ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป  แนะนำ “ซื้อ”  AH ให้ราคาพื้นฐาน 38 บาท เชื่อปี 2561 คาดผลประกอบการจะเติบโตสูงต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า หลักๆ มาจาก 1)การฟื้นตัวของอุตฯ 2)รับอานิสงส์จากเข้าลงทุนใน SGAH เต็มปี คาดจะรับรู้รายได้ดอกเบี้ยเข้ามา 300 กว่าล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรอีกเล็กน้อยจากเข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 25.10 (3)ตลอดจนส่วนแบ่งกำไรจาก บริษัทร่วมอื่นที่คาดจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

อีกทั้ง บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นกลุ่มรถยนต์นั่ง รถกระบะ รถบรรทุกและอุตสาหกรรมเครื่องยนต์การเกษตร โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ ผู้ประกอบยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีการทำสัญญาซื้อขายระยะยาว รวมทั้งเป็นผู้ค้าชิ้นส่วนอะไหล่

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บล.ซีไอเอ็มบี แนะนำ “ซื้อ”  SAT ราคาเป้าหมาย 23.10 บาท โดยคาดอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายจะอยู่ในขาขึ้นต่อไปในปี 2561-2562 จากปริมาณการสั่งซื้อจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมองว่าดัชนีรายได้เกษตรกรในประเทศไทยที่สูงขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับการดำเนินงานของ SAT

รวมไปถึง บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCSGH บริษัทประกอบธุรกิจการลงทุนในบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วน มีบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 จำนวน 3 บริษัท คือ 1) บริษัท พี.ซี.เอส. พรีซิชั่น เวิร์ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแกน เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนประเภทที่ใช้ความแม่นยำสูง ประเภทเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ และระบบบังคับรถ

2) บริษัท พี.ซี.เอส. ได คาสติ้ง จำกัด เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนประเภทอะลูมิเนียมฉีดขึ้นรูป โดยที่ ได คาสติ้ง สามารถผลิตชิ้นส่วนขนาดใหญ่ได้ 3) บริษัท พี.ซี.เอส. ฟอร์จจิ้ง จำกัด เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนประเภทเหล็กแปรรูป มีความชำนาญในการผลิตชิ้นส่วนประเภทเหล็กแปรรูปร้อน ได้แก่ ชุดส่งกำลัง ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” PCSGH ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท เนื่องจากการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรยังดีกว่ากลุ่ม

บริษัทที่นำเสนอมา ล้วนคาดว่าจะได้อานิสงส์จากยอดผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น!!

Back to top button