WHAUP ลุยธุรกิจโรงไฟฟ้าเต็มสูบ เล็งCODเพิ่ม 33.2MW ในปี62 ดันกำลังการผลิตเข้าเป้า 542.9MW

WHAUP ลุยธุรกิจโรงไฟฟ้าเต็มสูบ เล็ง COD เพิ่ม 33.2 MW ในปี 62 ดันกำลังการผลิตเข้าเป้า 542.9 MW


นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่โรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 4 ได้เริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตตามสัญญาตามสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่เริ่มดำเนินผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 509.7 เมกะวัตต์ (MW) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีกจำนวน 33.2 เมกะวัตต์ ซึ่งดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้งหมดภายในปี 62

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 4 เป็น 1 ในโรงไฟฟ้าแห่งใน Portfolio การร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัท WHAUP และ บริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด ในกลุ่ม บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ถัดจากโรงไฟฟ้า กัลฟ์ วีทีพี โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ที เอส 1 โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 2 และโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 3 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ค.60, วันที่ 8 ก.ค.60, วันที่ 1 ก.ย.60 และวันที่ 1 พ.ย.60 ที่ผ่านมาตามลำดับ

สำหรับโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 4 เป็นโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ WHAUP ถือหุ้นร้อยละ 99.99 และบริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 25.01 และ 74.99 ตามลำดับ

โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมด 129.9 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำติดตั้ง 25.0 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด (HESIE) อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

ส่วนความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมขนาด 6.9 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การ Joint Venture ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด, กลุ่ม บมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) และ SUEZ เพื่อร่วมลงทุนในบริษัท อีสเทิร์นซีบอร์ด คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ในสัดส่วนฝ่ายละร้อยละ 33.33 ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างซึ่งใช้เวลาประมาณ 24 เดือน โดยจะสามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/62

ขณะที่ยังเหลือโรงไฟฟ้าที่ร่วมทุนกับกลุ่มกัลฟ์ อีก 1 แห่งที่จะ COD ในเดือน ม.ค.62 ซึ่งเมื่อรวมทั้ง 2 โครงการที่จะเปิดในปี 62 จำนวน 32.3 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าครบ 542.9 เมกะวัตต์ตามแผน

 

Back to top button