หืดจับ

*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบวันต่อวัน “โมนิก้า” พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ลุ้นเหนื่อย! เพราะแรงซื้อมีเข้ามาแบบกะปริบกะปรอย ขณะที่แรงเทขายยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การขยับขึ้นแต่ละระดับเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศ แรงเทขายของฝรั่งตาน้ำข้าว ตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังลุ่มๆ ดอนๆ ฯลฯ ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้เล่นหุ้นยากเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบวันต่อวัน “โมนิก้า” พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ลุ้นเหนื่อย! เพราะแรงซื้อมีเข้ามาแบบกะปริบกะปรอย ขณะที่แรงเทขายยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การขยับขึ้นแต่ละระดับเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศ แรงเทขายของฝรั่งตาน้ำข้าว ตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังลุ่มๆ ดอนๆ ฯลฯ ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้เล่นหุ้นยากเจ้าค่ะ

*ขนาดวานนี้ดัชนียังทำดีสุดได้แค่ประคองตัวปิดที่ระดับ 1,800.03 จุด บวกไปแค่ 0.58 จุด ด้วยมูลค่า 5.38 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการยืนเหนือแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา 1,800 จุดได้อย่างเฉียดฉิว “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ เพราะในมุมของสัญญาณเทคนิคมองว่า ขึ้นไม่ขาด..ดัชนีมีโอกาส “ย่อตัว” กับ “ขึ้นต่อ” ในระดับที่พอกันพะย่ะค่ะ

*เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องลุ้นอีกยกในวันนี้! หากดัชนีวิ่งฉลุย ไม่มีอาการเครื่องสะดุด ก็มองเป้าด้านบนแถว 1,820 จุดได้ในทันที ในทางกลับกันหากดัชนีขยับไม่ไหว พร้อมกับเกิดอาการขาแข้งสั่นไปหมด ก็ควรหันมามองฐานแรกบริเวณ 1,780 จุด โดยทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับฝรั่งเพลาการขายหรือยัง? และกองทุนตัวแสบกล้าทุ่มซื้อหุ้นสุดตัวเหมือนเมื่อก่อนไหม?..วันนี้รู้ผลนะจ๊ะ

*ก่อนจะไปรู้ผลดังกล่าว “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูเรื่องเงินดิจิทัลสักหน่อย เพราะผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นรู้สึกสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอย่าง ก.ล.ต. กลับทำตัวเงียบเชียบผิดปกติ ทำให้ทุกคนสงสัยว่า มัวอมพะนำอะไรอยู่? ทั้งที่ก่อนหน้านี้แสดงอาการอยากทำตัวสั่น พอกระแสสังคมเกิดไม่เอาด้วยเยอะขึ้น แถมผู้คนในวงการตลาดทุนเริ่มตั้งคำถาม จึงหายตัวเข้ากลีบเมฆแบบนี้..ไม่แมนเลยนะคะ

*เมื่อทุกอย่างยังไม่ชัดเจน บวกกับรูปแบบไม่นิ่ง ทุกคนเลยหันมามองหุ้น JMART อย่างพร้อมเพรียง เพราะวันนี้จะเป็นวันแรกของการเปิดธุรกรรมขายเงินดิจิทัล ซึ่งหลายฝ่ายกำลังจ้องตาเป็นมัน..หากยอดขายออกมาดี รับรองบริษัทในตลาดหุ้นแห่กันออกแน่นอน..หากยอดขายไม่เวิร์ก รับรองหลายบริษัทจะเริ่มทบทวนใหม่ จึงเป็นเรื่องที่แฟนคลับต้องให้ความสนใจมากพอๆ กับการฉลองวาเลนไทน์นะจ๊ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องเทศกาลสำคัญขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้นทีเด็ดอย่าง AOT สักนิดหนึ่ง หลังสวมบทพระเอกด้วยการประคองดัชนีให้ปิดในแดนบวก ขณะที่ตัวเองวิ่งขึ้นมาปิดที่ 68.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 1.85% ด้วยมูลค่า 3.60 พันล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า ยังมีคนชอบหุ้นตัวนี้เยอะ จึงช่วยกันดันหุ้นสุดฤทธิ์ แต่เผอิญดันไม่สุดซอย หุ้นเลยมาปิดที่แนวต้านพอดีแบบนี้..ต้องเผื่อทางหนีไว้บ้างนะคะ

*เหมือนกับในรายของ BEAUTY พยายามเทกตัวผ่านแนวต้านเก่าบริเวณ 22.60 บาท แต่สุดท้ายทำไม่สำเร็จดั่งใจหวัง หุ้นเลยอ่อนตัวลงมาปิดที่ 22.40 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 1.27 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตพื้นๆ ธรรมดาๆ ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะวันนี้ยังมีลุ้นแก้มืออีกครั้ง เพราะแรงเทขายไม่ได้ออกมาแบบถล่มทลาย และทิศทางของหุ้นก็ยังดูดีอยู่ไงล่ะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ TOA ไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 34.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 653 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการเคลื่อนตัวในรูปแบบ w-shape ไม่มีอะไรแปลกประหลาดกว่าที่ผ่านมา แต่ที่น่าสนใจในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของการทะลุยอด 34 บาท เพื่อขึ้นไปหายอดที่สูงขึ้นบริเวณราคา 37 บาท จึงต้องตามไปดูด้วยความเต็มใจพะย่ะค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่ผู้เล่นต้องพิจารณาให้ดี “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น BIG เพื่อทำให้เห็นสถานการณ์ที่เปลี่ยนจาก “ขาลง” กลายเป็น “ขาขึ้น” หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 3.30 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 10.75% ด้วยมูลค่า 256 ล้านบาท แถมเป็นการบวก 3 วันติด ย่อมทำให้เดี๊ยนมองข้ามช็อตไปถึงแนวต้าน 3.60 บาทบริเวณเส้น 200 วันในทันที ส่วนจะทำได้หรือไม่ ก็ต้องลุ้นกันเอาเองค่ะ

*ส่วนที่ลุ้นไม่ขึ้นของแท้ ต้องรีบหันไปมอง THCOM ก่อนใครเพื่อน เพราะสถานการณ์ของบริษัทไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่? บวกกับภาพรวมของธุรกิจดาวเทียมก็ไม่สวยสดงดงาม แรงเทขายถึงพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมากองอยู่ที่ 11.20 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 4.30% ด้วยมูลค่า 161 ล้านบาท พร้อมกับทำ new low ในรอบ 6 ปี 1 เดือนแบบนี้..ตายหยังเขียดนะจะบอกให้

Back to top button