ค่าโง่ทีวีดิจิทัล

ศาลปกครองพิพากษาให้ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” เลิกสัญญาทีวีดิจิทัลได้ โดยเห็นว่า กสทช.ทำผิดสัญญา เปลี่ยนผ่านระบบล่าช้า ไม่เป็นไปตามประกาศชี้ชวน แต่เจ๊ติ๋มเรียกค่าเสียหายไม่ได้ ที่จ่ายแล้ว 2 งวดก็แล้วไป อีก 4 งวดไม่ต้อง ให้คืนแบงก์การันตี


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

ศาลปกครองพิพากษาให้ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” เลิกสัญญาทีวีดิจิทัลได้ โดยเห็นว่า กสทช.ทำผิดสัญญา เปลี่ยนผ่านระบบล่าช้า ไม่เป็นไปตามประกาศชี้ชวน แต่เจ๊ติ๋มเรียกค่าเสียหายไม่ได้ ที่จ่ายแล้ว 2 งวดก็แล้วไป อีก 4 งวดไม่ต้อง ให้คืนแบงก์การันตี

วันนั้นหุ้นทีวีดิจิทัลขึ้นกันใหญ่ ดีใจเร็วไปไหม เพราะยังต้องรอศาลสูงสุดอีกชั้น กสทช.อุทธรณ์ว่า ไม่ได้ผิดสัญญาให้บริการโครงข่าย ขณะที่ค่าใบอนุญาต อันที่จริงต้องจ่ายหมดแต่ต้น กสทช.เพียงใจดีให้ทยอยจ่าย จะชักกระบี่กลางคันไม่ได้

กระนั้นทีวีดิจิทัลยังมีลุ้น เพราะ กสทช.เสนอให้ใช้ ม.44 ช่วยอุ้ม พักชำระค่าใบอนุญาต 3 ปี และลดค่าเช่าโครงข่าย 50% อีก 2 ปี

แต่ก็มีหลายคนโต้แย้งว่า สมควรแล้วหรือที่รัฐจะอุ้ม ในเมื่อตอนประมูล พวกคุณกดแข่งกันมันมือ บางรายช่องเดียวไม่พอ ยังโลภขอ 2 ขอ 3 แข่งกันจนราคาพุ่งปรี๊ดหลายพันล้าน แต่พอเจ๊งย่อยยับ กลับมาโทษ กสทช.ทำบาปทำกรรม

มองตาม ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ณ TDRI เหตุที่ทีวีดิจิทัลเจ๊งวับ จนต้องขายเลหลัง หรือปลดพนักงานระนาว (จากที่แย่งซื้อตัวกันตอนต้น) มี 3 ข้อหลักคือ หนึ่ง มีทีวีเพิ่มขึ้นทันทีถึง 24 ช่องจากเดิม 6 ช่อง, สอง เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วมาก สมาร์ทโฟนฆ่าทั้งสิ่งพิมพ์ทีวี และสาม ความบกพร่องของ กสทช.ในการขยายโครงข่าย แจกคูปอง ฯลฯ ก็มีส่วนเช่นกัน

ข้อแรกใช่เลย ผู้ประกอบการต้องรับกรรม เพราะต่อให้เทคโนโลยีไม่เปลี่ยน ก็ควรคาดการณ์ได้ว่า เม็ดเงินโฆษณาเท่าเดิม คนดูใกล้เคียงเดิม แต่ 6 ช่องต้องแบ่งเค้กเป็น 24 ยังกระหยิ่มยิ้มย่อง ประมูลกระหน่ำ กลับมายังเปิดแชมเปญฉลองกัน แล้ววันนี้จะไม่ยอมจ่าย “ค่าโง่” เลยหรือไง

ข้อสองเป็นเรื่องเกินความคาดหมาย ดร.สมเกียรติเห็นว่าเป็นความเสี่ยงโดยปกติในโลกปัจจุบัน ต้องรับกรรมอีกเช่นกัน (แต่มองอย่างเห็นใจ ถ้ารัฐเข้าไปช่วยธุรกิจอื่นๆ ที่เจอวิกฤติจากความเปลี่ยนแปลง ทีวีดิจิทัลก็เรียกร้องได้เช่นกัน)

ข้อสาม คือ ประเด็นที่ศาลปกครองชี้ในคดีเจ๊ติ๋ม แต่จะมีผลกระทบเพียงไร ต้องรอศาลปกครองตัดสิน จะถึงขั้นเลิกสัญญาได้หรือไม่ หรือคืนความเสียหายบางส่วน ฯลฯ รายละเอียดต้องว่ากันในศาล โดย ดร.สมเกียรติแนะนำให้รอคดีถึงที่สุด คสช.จึงค่อยช่วย ยังไม่ควรรีบร้อน อย่าช่วยไปไกลเกินขอบเขตที่เหมาะสม

ตรงนี้ขอแย้งนิด คือ เรื่อง กสทช.บกพร่องไหม เห็นด้วยต้องรอศาล แต่มาตรการช่วยเหลือของ คสช.น่าจะถือว่า “คืนความเป็นธรรม” เพราะความย่อยยับของทีวีดิจิทัล ยังมีสาเหตุข้อสี่ คือ รัฐประหารปิดกั้นเสรีภาพ เซ็นเซอร์ข่าวสาร จนการทำหน้าที่สื่อติดขัด ไม่สามารถสร้างสรรค์

ยกตัวอย่างที่เพิ่งสั่งแบนรายการ Tonight Thailand ของ Voice TV นี่ไง ซึ่งอย่ามองว่าเพราะ Voice เป็นขาประจำ แต่มีเหตุทีไรทุกช่องสะดุ้งกันหมด (อาจยกเว้นช่องที่เชลียร์กันสุดๆ)

ที่เห็นๆ กันคือตลอด 4 ปี ทีวี 24 ช่องต้องสละเวลาไพรม์ไทม์ ทั้งช่วงเย็นและคืนวันศุกร์ให้ คสช.จัดรายการอบรมประชาชน “ให้รู้เท่าทัน” โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าเวลา นี่ยังไม่พูดถึงความเสียหายจากการที่ชาวบ้านเบื่อหน่าย หลับใหล ไม่อยากดูทีวี หนีไปดูข่าวสารความบันเทิงในโลกออนไลน์

เพราะฉะนั้น ถ้า คสช.จะออกมาตรการลดค่าเช่า พักชำระ ก็ไม่ถือว่าอุ้มเสียทีเดียว เพราะมีด้านที่คืนความเป็นธรรม แต่เพียงไหนเหมาะสม ค่อยถกกันอีกที

Back to top button