BIZ รับเต็ม! ยอดขายเครื่องฉายแสงปี 61 เพิ่ม

ปัจจุบัน BIZ  มีงานในมือ (Backlog) 1,460.74 ล้านบาท จากทั้งหมด 5 โครงการ (เฉพาะมูลค่าเครื่องฉายรังสีรักษา) ได้แก่ 1) งานลูกค้ารพ.จุฬา 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นตัวเครื่องฉายฯ ราว 964 ล้านบาท (คาดจะรับรู้เข้ามาในปี 2563) และส่วนงานก่อสร้างอีก 236 ล้านบาท (รับรู้ในปี 2560 ไปแล้ว 121 ล้านบาท หากคาดส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้เข้ามาทั้งหมดในปี 2561)


คุณค่าบริษัท

ปัจจุบัน บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ  มีงานในมือ (Backlog) 1,460.74 ล้านบาท จากทั้งหมด 5 โครงการ (เฉพาะมูลค่าเครื่องฉายรังสีรักษา) ได้แก่ 1) งานลูกค้ารพ.จุฬา 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นตัวเครื่องฉายฯ ราว 964 ล้านบาท (คาดจะรับรู้เข้ามาในปี 2563) และส่วนงานก่อสร้างอีก 236 ล้านบาท (รับรู้ในปี 2560 ไปแล้ว 121 ล้านบาท หากคาดส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้เข้ามาทั้งหมดในปี 2561)

2) งานลูกค้ารพ.มะเร็งลพบุรี 63.70 ล้านบาท 3) งานลูกค้ารพ.มะเร็งชลบุรี 98.60 ล้านบาท 4) งานลูกค้ารพ.นครท่าฉลอม สมุทรสาคร 90 ล้านบาท และ 5) งานลูกค้ารพ.มหาราช นครราชสีมา 129.10 ล้านบาท

ทั้งนี้ในปี 2561 คาดบริษัทจะมีส่งมอบและรับรู้งานดังกล่าวเข้ามา 4 โครงการ

นอกจากนี้ในปี 2561 บริษัทรับรู้รายได้ส่วนงานบริการคาดราว 135 ล้านบาท และรายได้ค่าก่อสร้างอีก 115 ล้านบาท จะทำให้มีรายได้รวมที่ 644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ผลดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า BIZ อาจทำกำไรปี 2561 อยู่ที่ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ส่วนโครงการก่อสร้างรพ.มะเร็งเฉพาะทาง มูลค่าลงทุนรวม 500 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จตามแผนเดิมในปลายปี 2562 และเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในต้นปี 2563 หากปัจจุบันอยู่ในระหว่างรอตอกเสาเข็ม ราวๆ เดือน พ.ค.-มิ.ย. 2561

ที่สำคัญทางบริษัทยังคงเดินหน้าขยายกลุ่มเป้าหมายทั้งในส่วนของโรงพยาบาลภาครัฐ และโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ประเมินว่าภาพรวมตลาดเครื่องฉายรังสียังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเครื่องมือการรักษาในปัจจุบันยังขาดแคลนอยู่ ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้คาดการณ์จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2563 คาดมีจำนวนผู้ป่วยมะเร็ง 149,758 คน  และปี 2568 อยู่ที่ 168,039 คน

ดังนั้นความต้องการเครื่องฉายรังสีของหลายๆ โรงพยาบาลยังคงมีอยู่ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่อาจเพิ่มขึ้น!

ส่วนผลการดำเนินงานที่ผ่านมาแม้ว่าจะยังไม่ค่อยดี โดยผลการดำเนินงบปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 บริษัทมีรายได้รวมเพียง 623.43 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 743.23 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายและการบริการลดลง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 41.43 ล้านบาท หรือ 0.10 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 70.24 ล้านบาท หรือ 0.23 บาทต่อหุ้น

แม้ว่าผลการดำเนินงานในงวดปี 2560 ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่หลายฝ่ายมองว่าในปี 2561 จะดีขึ้นจากการส่งมอบงานเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป มองว่า จากความต้องการในตัวผลิตภัณฑ์ยังอยู่ในระดับสูง อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าอีกหลายราย มูลค่างานกว่า 200-300 ล้านบาท ทำให้จะมีงานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง ณ ระดับราคาหุ้นปัจจุบัน ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานปี 2561 อยู่ที่ 4.80 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ 128,250,000 หุ้น 32.06%
  2. นายวรวิทย์ สีลภูสิทธิ์ 125,250,000 หุ้น 31.31%
  3. นายนพดล สันธนะพานิช 24,000,000 หุ้น     6.00%
  4. นางศริน ชินอุดมทรัพย์ 11,793,000 หุ้น     2.95%
  5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 5,498,700 หุ้น    1.37%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายวุฒิพงษ์ โมฬีชาติ ประธานกรรมการ
  2. นายวุฒิพงษ์ โมฬีชาติ กรรมการอิสระ
  3. นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานกรรมการบริหาร
  4. นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ กรรมการ
  5. นายวรวิทย์ สีลภูสิทธิ์ กรรมการ

Back to top button