VGI-SPALI วิศวกรรมการเงิน“เขี้ยวลากดิน”

จากดีลการซื้อหุ้นบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Kerry TH บริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่ของเมืองไทย สัดส่วน 23% รวมมูลค่า 5,900 ล้านบาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม 3 ราย คือ 1) บริษัท เคแอลเอ็น โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด 2) Gather Excellence Limited 3) บริษัท สยาม เจ้าพระยา เอ็กซ์เพรส จำกัด มีกำหนดดำเนินการซื้อขายแล้วเสร็จภายใน 14 ส.ค. 2561


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

จากดีลการซื้อหุ้นบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Kerry TH บริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่ของเมืองไทย สัดส่วน 23% รวมมูลค่า 5,900 ล้านบาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม 3 ราย คือ 1) บริษัท เคแอลเอ็น โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด 2) Gather Excellence Limited  3) บริษัท สยาม เจ้าพระยา เอ็กซ์เพรส จำกัด มีกำหนดดำเนินการซื้อขายแล้วเสร็จภายใน 14 ส.ค. 2561

ดีลนี้ทำให้เห็นกลยุทธ์การใช้ “วิศวกรรมการเงิน” ที่ถือเป็นแม่แบบที่หลายบริษัทสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้

กล่าวคือการซื้อหุ้น Kerry TH ครั้งนี้ VGI ไม่ต้องควักเงินสดของบริษัทแม้แต่บาทเดียว เพื่อซื้อหุ้นดังกล่าว แต่โดยเงินที่นำมาชำระค่าหุ้น Kerry TH ทั้งหมด มาจากการแปลงสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ (VGI-W1) จำนวนกว่า  7,120 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการแปลงสิทธิของบริษัทแม่คือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS มูลค่าประมาณกว่า 5,500 ล้านบาท

ไม่เพียงแค่นั้น VGI มีเงินเหลือกว่า 1,200 ล้านบาท นำไปลงทุนระบบซอฟต์แวร์ด้าน AI (Artificial  Intelligence) สำหรับ “เชื่อมโยงโครงข่ายดาต้าสื่อทั้งหมด” ของบริษัท เพื่อการลงทุนเพิ่มเชิงธุรกิจได้อีกทางหนึ่งด้วย..!!?

นั่นเท่ากับว่า VGI ไม่มีภาระต้นทุนทางการเงินในการเข้าซื้อ Kerry TH  แต่อย่างใด..!? เพราะเป็นการดึงเงินจาก กระเป๋าบริษัทแม่ BTS และผู้ถือหุ้น VGI  มาใช้ซื้อหุ้นดังกล่าว ทำให้ VGI ปลอดภาระดอกเบี้ยจ่ายหรือต้นทุนการเงินอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง..!!??

สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิแปลง VGI-W1 เป็นหุ้น VGI  ถือว่าไม่ได้เสียประโยชน์อะไร หากดูราคาหุ้น VGI ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 7.20-7.60 บาท ดังนั้นเทียบกับต้นทุนราคา VGI-W1 ที่ 0.01 บาท บวกกับราคาแปลงสิทธิ 7.00 บาท (สัดส่วน 1 :1) ผู้แปลงสิทธิ VGI-W1 จะได้กำไรหุ้นละ 0.20-0.60 บาท พร้อมกันนี้ยังได้มูลค่าเพิ่มในรูปกำไรและการ Synergy จากการซื้อ Kerry TH เข้ามาอีกทางหนึ่งด้วย

ล่าสุด VGI คงเหลือ VGI-W1 ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิอีก 689.01 ล้านหน่วย หากมีการใช้สิทธิแปลงสภาพครั้งสุดท้ายเต็มจำนวนวันที่ 1 ส.ค. 2561 ส่งผลให้ VGI ได้รับเงินเพิ่มอีก 4,823 ล้านบาท

การแปลงสิทธิ VGI-W1 ครั้งสุดท้าย..บังเอิญมาบรรจบครบรอบตรงกับดีลซื้อหุ้น Kerry TH แบบพอดิบพอดี..เสมือนว่ามีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าประมาณนั้น (ใช่ป่ะ.!!?)

กรณีการใช้วิศวกรรมการเงินของ VGI ครั้งนี้ เทียบเคียงได้กับกรณีบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI  ล่าสุดอยู่ระหว่างการทำคำเสนอซื้อ (เทนเดอร์) หุ้นบริษัท มั่นคง เคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ทั้งหมด มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท

แน่นอนมีการใช้ “วิศวกรรมการเงิน” เช่นกัน กล่าวคือเม็ดเงินส่วนหนึ่งหรือส่วนใหญ่ ที่เตรียมไว้เพื่อทำเทนเดอร์ดังกล่าว ได้มาจากการแปลงสิทธิ SPALI -W4 นั่นเอง..!

ที่สำคัญการแปลงสิทธิ SPALI-W4 ครั้งสุดท้าย..บังเอิญ มาบรรจบครบรอบตรงกับดีลซื้อหุ้น MK แบบพอดิบพอดี..เสมือนว่ามีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า..เช่นเดียวกับ VGI  นั่นเอง..!?

เชื่อเลยว่างานนี้ “ไม่บังเอิญ” แน่นอน เพราะมือระดับ “คีรี กาญจนพาสน์” ประธานเครือ BTS Group และ “ประทีป ตั้งมติธรรม” ประธานกลุ่มศุภาลัย..บอกได้คำเดียวว่า “เขี้ยวลากดิน” กันทั้งคู่..!!??

….อิ อิ อิ…

Back to top button