ตั้งไข่ล้ม

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ข้อมูลการลงทุนที่ทุกคนรับรู้กันอย่างแพร่หลายในเวลานี้ น่าจะเป็นเรื่องของการเซตเกมหุ้นที่บริเวณ 1,700 จุดยังไม่นิ่งสักที จึงมีอาการเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาตลอดเวลา พร้อมกับทำให้นักเล่นบางส่วนเกิดอาการอิดหนาระอาใจนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องปกติของการลงทุนที่็มไปด้วยอปสรรคเต็มไปด้วยอุปสรรคขัดขวางนานัปการ  จึงรู้สึกเบื่อหน่ายทุกครั้งที่ดัชนีวนไปวนมาที่ฐานเดิมก็เท่านั้นเองเจ้าค่ะ

*เมื่อทุกอย่างไม่ใช่เรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรง และรูปแบบการเล่นไม่มีอะไรที่ซับซ้อน “โมนิก้า” เลยมองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องถอยร่นแบบสุดซอย เพราะสิ่งที่สะท้อนออกมาในเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า ยังมีหุ้นหลายตัวที่แมงเม่าสามารถเคาะขวาสั้น ๆ เพื่อหาเงินค่าขนมได้สบาย ๆ เนื่องจากรูปแบบการเคลื่อนตัวยังอยู่ในกรอบเดิมทั้งหมด และบางตัวยังมีลุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่อีกด้วยจ้า !

*ด้วยเหตุนี้ถึงอยากให้แมงเม่าหันไปมองการขึ้นมาปิดที่ 1,698.30 จุด บวกไป 3.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.80 หมื่นล้านบาท มันมีอะไรแตกต่างไปจากเรื่องที่ “โมนิก้า” เม้าท์ให้ฟังไว้เมื่อวันก่อนไหม ? ผลปรากฏว่า ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากเดิมเลยสักอย่าง พวกกองทุนตัวแสบยังมีนิสัยดันแล้วทุบ ฝรั่งขี้นกยังคงมุ่งมั่นกับการขายหุ้นต่อไปเรื่อย ๆ ส่วนแมงเม่ายังคงเข้า ๆ ออก ๆ ตามความถนัดของแต่ละคนไงล่ะคะ

*ประเด็นนี้ดูได้จากการเคลื่อนตัวของ PTT นับตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. จนถึงวานนี้ “โมนิก้า” เห็นราคาหุ้นลงมาตั้งฐานเพื่อขึ้นใหม่บริเวณ 51 บาทเป็นประจำ เลยไม่รู้สึกแปลกใจที่วานนี้หุ้นลงมาแตะระดับ 51.25 บาทปุ๊บ ต่อจากนั้นเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 51.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.53 พันล้านบาทอย่างรวดเร็ว เพราะเค้าโครงของหุ้นมันออกมาในโทนนี้ทุกครั้งนะจ๊ะ

*หุ้นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจสุด ๆ ในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” กลับมองไปที่น้องสวย BEAUTY พยายามปักหลักสร้างฐานที่มั่นคงเหนือเส้นแนวรับ 10 วัน กับ 75 วันที่บริเวณ 8.60 บาท และดูเหมือนเที่ยวนี้สัญญาณเทคนิคจะเป็นใจเสียด้วย เพราะทั้ง 2 เส้นสอดรับกันพอดีที่จุดดังกล่าว บวกกับหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 9.30 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.66 พันล้านบาท จึงทำให้หุ้นมีโอกาสไปต่อค่อนข้างสูงเจ้าค่ะ

*คล้ายกับกรณีของหุ้นสุดเลิฟอย่างพระเอกหน้ามน EA วนไปวนมาในกรอบราคา 35-37 บาทนานร่วมเดือน จนวานนี้หุ้นพุ่งทะลุกรอบแนวต้านดังกล่าวแบบชิว ๆ แถมเป็นการขึ้นมายืนปิดเหนือเส้นแนวรับ 10 วัน 25 วัน และ 75 วันอีกด้วยแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงมั่นอกมั่นใจเหลือเกินว่า ราคาปิดที่ 37.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 925 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นอีกพักใหญ่ ๆ เพราะราคาเป้าหมายอยู่เกินระดับ 42 บาทนะซี

*ส่วนหุ้นดาวเด่นที่เติบโตด้วยตัวเลขกำไรเป็นแรงขับเคลื่อนอย่าง KTC ยังคงเป็นทีเด็ดสำหรับนักเล่นทั่วฟ้าเมืองไทย เพราะทันทีที่ประกาศกำไรจะโตอย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้นก็พุ่งขึ้นมาปิดที่ 29.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.39 พันล้านบาทอย่างแข็งแกร่งแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงเริ่มมีความหวังจะได้เห็นหุ้นวิ่งทะลุเส้น 75 วันที่ระดับ 31 บาท ส่วนจะเป็นจริงดั่งที่หวังขนาดไหน ? วันนี้ต้องติดตามดูให้ดีเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ EPG พยายามตั้งลำด้วยการยืนเหนือเส้น 200 วันที่บริเวณราคา 8.80 บาทไม่ต่ำกว่า 3 วัน จนวานนี้สามารถขึ้นมายืนปิดที่ 8.90 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 263 ล้านบาท “โมนิก้า” กลับมองเป็นเกมชักเย่อเพื่อพิสูจน์แรงซื้อมีเยอะขนาดไหน ? และหากยืนปิดราคาแถวนี้ได้พักใหญ่ ๆ บวกกับกำไรไตรมาส 3 มาตามนัด หุ้นจะขึ้นไปยืนเหนือ 10 บาทได้แบบชิว ๆ เลยนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่น่ากังวลใจสุด ๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยัง CPALL ก่อนใครเพื่อน เพราะการโดนเทขายเป็นเวลานาน จนหุ้นออกอาการอยากจะลงไปทำโลว์ใหม่ มันเหมือนภาพสะท้อนที่ทำให้รู้ว่า ไม่มีใครเล่น ! สภาพของหุ้นก็จะแย่ลงไปเรื่อย ๆ และจะมีการปรับลดเป้าหมายลงในไม่ช้า เพราะตัวเลขกำไรไม่โตตามที่คาดหวัง จึงทำให้ราคาปิดที่ 69.75 บาท ลบไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 พันล้านบาท ยังไม่ใช่จุดเข้าลงทุนพะยะค่ะ

*หากเดาสถานการณ์ในอนาคตไม่ออก “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดูสภาพของอดีตหุ้นฮอตฮิต PTG โดนกระหน่ำเทขายจนไม่เหลือสภาพความยิ่งใหญ่ให้เห็นอีกเลย แถมในระหว่างทางยังเกิดปรากฏการณ์ new low ให้เห็นตลอดเวลา มันเป็นความชอกช้ำใจเกินจะบรรยาย ยิ่งเจอคำอธิบายออกมาในทำนองเศรษฐกิจต่างจังหวัดไม่ค่อยดี ส่งผลให้คนใช้น้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนเลยสังหรณ์ใจราคาปิดที่ 11.80 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 450 ล้านบาท ยังไม่ใช่จุดต่ำสุดของเที่ยวนี้ไงล่ะคะ

*อีกหนึ่งรายที่มีสภาพไม่แพ้กัน “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้นน้ำแข็งใส AU โดนรินเทขายแบบไม่หยุดหย่อน จนหุ้นลงมานอนกลิ้งแถว 8.30 บาทสักพัก ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.40 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 48 ล้านบาท มันไม่ช่วยให้เดี๊ยนมีมุมมองที่ดีขึ้นกว่าเดิมสักเท่าไหร่ ? เพราะของมันเห็นเต็มสองลูกตาโต ๆ ว่า กำไรไม่มา..หุ้นก็ไม่วิ่ง แล้วจะเสียเวลาดูทำไมล่ะคะ