SCCC ผลงานกลับมาดี

สัดส่วนโครงสร้างของรายได้ SCCC ยังเน้นจากกำลังการผลิตในตลาดประเทศไทย 67%, เวียดนาม 18%, ศรีลังกา 10%, กัมพูชา 3% และบังกลาเท


คุณค่าบริษัท

สัดส่วนโครงสร้างของรายได้ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC ยังเน้นจากกำลังการผลิตในตลาดประเทศไทย 67%, เวียดนาม 18%, ศรีลังกา 10%, กัมพูชา 3% และบังกลาเทศ 2% ตามลำดับ

สำหรับแนวโน้มอุปสงค์ตลาดในประเทศไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2561 น่าจะฟื้นตัวเพิ่มขึ้น 2-3% จากการใช้จ่ายโครงการภาครัฐฯ และการฟื้นตัวของภาคเอกชนในเชิงพาณิชย์ของที่อยู่อาศัย

ขณะที่ตลาดเวียดนามโดยเฉพาะทางใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ของโรงงาน SCCC มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนผู้ถือหุ้น 4.1 ล้านตัน ซึ่งทางใต้ของเวียดนามอุปสงค์ค่อนข้างสมดุลกับอุปทาน เพราะการพัฒนาก่อสร้างยังไปได้ดีคาดอุปสงค์ในเวียดนามโต 6%

ส่วนตลาดศรีลังกามีอุปทานน้อยกว่าอุปสงค์ แต่ปีนี้งานภาครัฐฯ ชะลอ ทำให้อุปสงค์จะอ่อนลง 3% ในเวลาเดียวกัน สามารถปรับราคาขายในแต่ละตลาดมากขึ้นตามแรงผลักดันของต้นทุน และนโยบายมาขาย Brand ที่ราคาสูงขึ้น Margin สูงขึ้น รวมทั้งการมีสต๊อกถ่านหินราคาต่ำไว้สำหรับปีนี้ ภาพรวมรายได้เพิ่มขึ้น 5% และ Gross Margin จะดีขึ้นเป็น 34% จาก 33%

อีกทั้งปีนี้ไม่มีรายจ่ายปรับโครงสร้างมากเหมือนปีก่อนที่ 1 พันล้านบาท เหลือแค่ 260 ล้านบาท ทำให้กำไรปีนี้พลิกกลับมาเติบโต 109% หากปรับปรุงรายจ่ายปรับโครงสร้าง คาดกำไรปกติปีนี้เติบโตจาก 3 พันล้านบาท เป็น 4 พันล้านบาท

นอกจากนี้ ทิศทางปี 2562 การขายยังเติบโตได้ดีจากในไทยที่ยังไปได้ดีจากโครงการภาครัฐฯ พร้อมกับแรงหนุนจากภาคเอกชน เนื่องจากคาดอุปสงค์ของไทยจะเติบโตได้อีก 3% ส่วนเวียดนามน่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องเช่นกันในระดับ 6% เพราะการพัฒนาเมืองยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐฯ ขณะที่ตลาดศรีลังกาจะกลับมาทรงตัว เพราะคาดว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นจากปี 2561 ที่มีการชะลอการก่อสร้าง ภาพรวมปริมาณขายเพิ่มขึ้น 3%

ส่วนการเพิ่มราคาขายผ่านการปรับส่วนผสมผลิตภัณฑ์ น่าจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 4% ขณะที่ Margin อาจไม่ดีเท่าปี 2561 เพราะการล็อกราคาถ่านหินสำหรับปี 2562 น่าจะสูงขึ้น เพราะราคาถ่านหินสะสมตั้งแต่ต้นปีนี้ยังสูงขึ้น 7% เทียบกับปี 2561 ที่เพิ่ม 4%

ทั้งนี้ทางนักวิเคราะห์จึงคาด Margin อ่อนลง แต่ปี 2562 จะไม่มีค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้าง ทำให้รายจ่ายดำเนินการลดลง กำไรปีหน้ามีโอกาสเติบโต 9%

ดังนั้นนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป แนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาเป้าหมาย 260 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ซันไรส์ อีคิวตี้ จำกัด 106,186,626 หุ้น 35.63%
  2. JARDINE CYCLE & CARRIAGE LIMITED 76,107,368 หุ้น 25.54%
  3. บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด 28,091,034 หุ้น 9.43%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 4,877,458 หุ้น 1.64%
  5. NORTRUST NOMINEES LTD-CL AC 4,452,488 หุ้น 1.49%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายพอล ไฮน์ ฮูเกนโทเบลอร์ ประธานกรรมการ
  2. นายศิวะ มหาสันทนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
  3. นายวันชัย โตสมบุญ กรรมการ
  4. นายชัชชน รัตนรักษ์ กรรมการ
  5. น.ส.นพพร ติรวัฒนกุล กรรมการ

Back to top button