EKH มั่นใจรายได้ปีนี้โต “ออลไทม์ไฮ” ฟาก โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 7.40 บ. อัพกำไรปี 61-62 เพิ่ม

EKH มั่นใจรายได้ปีนี้โต "ออลไทม์ไฮ" ฟาก โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 7.40 บ. อัพกำไรปี 61-62 เพิ่ม พร้อมชูหุ้น Top Pick


นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 15% จากเดิมตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 10% และคาดว่ารายได้ในปีนี้จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เปิดโรงพยาบาลมา

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น EKH โดยประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/61 จะเติบโตแบบก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน  ซึ่งไตรมาส 3/61 ถือเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี  จากอานิสงส์ของ  High Season และมีโรคระบาดค่อนข้างมากจากฝนที่มาเร็วและตกต่อเนื่องทำให้มีโรคระบาดค่อนข้างมากทั้งไข้หวัดใหญ่ รวมถึงโรคในเด็กเล็กเช่น RSV ซึ่งเป็นสิ่งที่ EKH มีความเชี่ยวชาญ  

ขณะที่ศูนย์ผู้มีบุตรยาก  (IVF) ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปี  ในช่วง 2 เดือนล่าสุด (ก.ค.-ส.ค.61) เริ่มมีผู้ใช้บริการเร่งตัวขึ้นเป็นเฉลี่ยเดือนละราว 15-20 เคส  ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของบริษัทที่เฉลี่ยราว 10 เคสต่อเดือน  ทำให้เริ่มผ่านจุดคุ้มทุนและสร้างกำไรเข้ามาช่วยหนุนผลการดำเนินงานในภาพรวมนอกเหนือจากธุรกิจโรงพยาบาลที่เติบโตแข็งแกร่งอยู่แล้ว  ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่หนุนการเติบโตและคาดว่าจะช่วยลดผลกระทบเชิงลบจากการเปิดอาคารศูนย์กุมารเวชในไตรมาส 2/62

ทั้งนี้เบื้องต้นทางฝ่ายคาดกำไรปกติไตรมาส 3/61 จะอยู่ที่ราว 40 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 79% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน

อย่างไรก็ตามคาดว่าศูนย์ IVF จะยังโตได้แข็งแกร่งต่อเนื่องในปีหน้า  ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบจากการเปิดอาคารศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ในไตรมาส 2/62  (เงินลงทุนราว 200 ล้านบาท) ที่คาดว่าจะขาดทุนในช่วงเริ่มต้นและทำให้กำไรในภาพรวมไม่หดตัวลงและจาก Upside ของประมาณการที่เกิดขึ้นหลังกำไร ในครึ่งแรกของปีนี้ ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด

ดังนั้น ทางฝ่ายวิเคราะห์จึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2561-2562 ขึ้นเฉลี่ยราว 10% ขึ้น โดยคาดว่ากำไรปกติปี 2561 จะแตะระดับ 101 ล้านบาท  หรือเพิ่มขึ้น 20.2%  เมื่อเทียบกับปีก่อน และปี 2562 เติบโตได้อีกเล็กน้อยเป็น 105 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามลำดับ

โดยสะท้อนกำไรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ที่เด่นกว่าคาด พร้อมปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2562 ที่ 7.40 บาท (DCF WACC 11% Terminal Growth 3%) ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside เปิดกว้างและซื้อขายบนระดับ PE ปี 2561-2562  ราว 32-33 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มการแพทย์ที่ซื้อขายในช่วงราว 37-40 เท่า  และเป็น Top Pick สำหรับโรงพยาบาลขนาดเล็ก

Back to top button