INTUCH-ADVANC กอดคอดิ่งแรงสวนภาวะตลาดฯ หลังไตรมาส 3 พลาดท่ากำไรต่ำคาด!

INTUCH-ADVANC กอดคอดิ่งแรงสวนภาวะตลาดฯ หลังไตรมาส 3 พลาดท่ากำไรต่ำคาด!


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ล่าสุด ณ เวลา 10.17 น. อยู่ที่ระดับ 52 บาท ปรับตัวลดลง 1.50 บาท หรือ 2.80% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 299.31 ล้านบาท

ขณะเดียวกันราคาหุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC อยู่ที่ระดับ 189 บาท ปรับตัวลดลง 7.50 บาท หรือ 3.82% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.64 พันล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น 8.52 จุด

โดยราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัทปรับตัวลดลงในวันนี้ คาดว่าเกิดจากความกังวลเรื่องของผลประกอบการที่ปรับตัวลดลง หลังจากที่ ADVANC ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 มีกำไรสุทธิ 6.8 พันล้านบาท ลดลง 9% จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 7.47 พันล้านบาท

โดยกำไรสุทธิที่ลดลงเนื่องจากบริษัทมีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากการสนับสนุนแคมเปญการตลาดและการบันทึกรายการพิเศษจำนวน 134 ล้านบาท เกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย

ทั้งนี้ในไตรมาส 3/ 2561หากไม่รวมรายการพิเศษ บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคา (EBITDA)อยู่ที่ 17,951 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 2.1 เทียบกับปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 5.5 เทียบกับไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิ6,934 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.2 เทียบกับปีก่อน และร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

อนึ่งเมื่อวันที่ 19 ก.ย. บริษัทได้ชำระค่าประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz  ในงวดที่ 1 จำนวน 6,693,385,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมหนังสือค้ำประกันของธนาคารจำนวน 6,693,385,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ภายหลังจากบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (เอดับบลิวเอ็น) บริษัทในเครือเอไอเอส ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz (1740-1745 MHz คู่กับ 1835-1840 MHz) จำนวน 1 ใบอนุญาต  (5 MHz x 2)ด้วยมูลค่า 12,511 ล้านบาท

โดย INTUCH เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ADVANC ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 1,202,712,000 หุ้น หรือ 40.45% ซึ่งหากผลประกอบการของ ADVANC ปรับตัวลดลงทาง INTUCH จะได้รับผลกระทบในเรื่องของปันผลด้วยเช่นกัน

 

ด้าน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะนำ “HOLD” ADVANC ราคาเป้าหมาย 210 บาท/หุ้น โดยมองว่างวดไตรมาส 3/61 เสียศูนย์ กำไรลดลง 9% จากปีก่อน และ 15% จากไตรมาสก่อนหลักๆเกิดจากผลกระทบการแข่งขันของธุรกิจค่ายมือ โดยเฉพาะการออกแพ็คเก็จรายเดือน Fixed Speed การใช้งานไม่จำกัด ตั้งแต่ต้นปี ทำให้ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นมาก แต่รายได้จากธุรกิจมือถือกลับลดลง 1.1% จากปีก่อน และ 0.2% จากไตรมาสก่อน แม้จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 5.5 แสนรายจากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ต้นทุนโดยรวมเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ งวดไตรมาส 4/61 ปรับกลยุทธ์ คาดหวังกำไรจะฟื้นตัวดีขึ้น  ปัจจุบัน ADVANC ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หันมาเน้นทำการตลาดสร้างภาพลักษณ์ เน้นคุณภาพของการให้บริการที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะบริการ 4G บนคลื่น 1800 ที่มีมากสุดคือ 15MHz  และจะไม่เน้นการแข่งขันด้านราคา โดยได้ยกเลิกแพ็คเก็จมือถือรายเดือน Fixed Speed การใช้งานไม่จำกัด ที่มีราคาต่ำออกไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรมากขึ้น

ทั้งนี้ จากผลกระทบในงวดไตรมาส 3/61 ทำให้บริษัทปรับลดเป้าปีนี้ลด โดยปรับลดลงคาดการณ์รายได้การให้บริการหลักปีนี้เหลือเพิ่มขึ้น 3.5-4.5% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 5-7% ด้วยผลกระทบดังกล่าวข้างต้น บวกกับแผนการปรับกลยุทธ์ของ ADVANC ส่งผลให้เราคาดว่า กำไรของ ADVANC ในปีนี้จะทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเพียงเล็กน้อย ทำให้ ADVANC มีกำไรทรงตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 2

ลุ้นกลยุทธ์ใหม่ที่เน้นคุณภาพบริการ จะช่วยให้กลับมาเติบโตในปีหน้าได้  ยังฝากความหวังกับกลยุทธ์ใหม่ที่เน้นสร้างภาพลักษณ์คุณภาพในการให้บริการ มากกว่าการแข่งขันด้านราคา จะช่วยให้ธุรกิจมือถือมีการเติบโตในเชิงรายได้และเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไร  โดยคาดการณ์ว่ากำไรของ ADVANC จะเติบโตได้ราว 5%

ทั้งนี้ แนะนำ “ถือ” เพื่อรอรับเงินปันผล แม้กำไรปีนี้มีแนวโน้มทรงตัวจากปีก่อนหน้า แต่คาดหวังว่าจะกลับมาเติบโตได้ในปีหน้า ขณะราคาเป้าหมายปี 2562 อยู่ที่ 210 บาท มี Upside  6.9% บวกกับคาดการณ์ผลตอบแทนเงินปันผลที่ราว 3.7% จึงแนะนำเพียง “ถือ” เพื่อรอรับเงินปันผล

 

ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ADVANC ราคาเป้าหมาย 228 บาท/หุ้น โดยมองว่ากำไรไตรมาส 3/61 ออกมาแย่กว่าคาด ลดลงทั้งจากปีก่อนและจากไตรมาสก่อน หลังถูกกดดันจาก ARPU ที่ลดลงทั้งในธุรกิจ mobile และ FBB รวมถึง SG&A ที่สูงขึ้นจากการทำแคมเปญมือถือและโฆษณาที่เน้นสร้างแบรนด์ และค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ปรับเป้าการเติบโตปี 61 ลง: ด้วยผลจาก fixed speed unlimited plans ที่กดดัน ARPU เติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง ADVANC จึงปรับลดเป้ารายได้การให้บริการ (ไม่รวม IC & ค่าเช่าเครื่องและอุปกรณ์) ทั้งปีเหลือโต 3-5% จากปีก่อน (จาก 5-7% จากปีก่อน)เพื่อสะท้อนรายได้ดังกล่าวในช่วง 9 เดือนแรกของปี 61 ที่เติบโตเพียง 3.9% จากปีก่อน

โดยคงแนะนำ “ซื้อ” ปรับไปใช้ราคาปี 62 ที่ 228 บาท: ทางฝ่ายยังคงมุมมองบวก ถึงแม้จะปรับประมาณการกำไรปกติปีนี้ลงเป็น 30,400 ลบ. (เพิ่มขึ้น 1.8% จากปีก่อน) แต่ปีหน้านอกจากฐานลูกค้ารวมที่คาดเพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนรายได้จากการให้บริการโตแล้ว ARPU คาดดีขึ้นเช่นกันจากการยกเลิกแพ็กเกจที่มีราคาต่ำ อีกทั้งคาดยังได้แรงบวกจากการคุมต้นทุนที่ดี ภายใต้การลงทุนพัฒนาโครงข่าย 4G ที่มีต่อเนื่อง พร้อมผลักดันกำไรปกติปี 62 คาดโต 3.1% จากปีก่อน ทั้งนี้ทางฝ่ายปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ทยอยซื้อ” และปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 62 ที่ 228 บาท (วิธี DCF)

 

Back to top button