โบรกฯ ชู BBL หุ้นเด่นเดือนม.ค. ลุ้นไตรมาส 4 กวาดกำไรทะลุ 9 พันลบ. พ่วงยีลด์สูงเกิน 3%

โบรกฯ ชู BBL หุ้นเด่นเดือนม.ค. ลุ้นไตรมาส 4/61 กวาดกำไรทะลุ 9 พันลบ. พ่วงยีลด์สูงเกิน 3%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL หลังหุ้นในกลุ่มธนาคารทยอยรายงานผลการดำเนินการประจำไตรมาส 1/61 และประจำปี 2561 โดย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ คาดว่า BBL จะรายงานผลการดำเนินงานในวันนี้ (17 ม.ค.) และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 9.17 พันล้านบาท เติบโต 7.9% เทียบจากปีก่อน และโต 1.5% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BBL ให้ราคาเป้าหมาย 245 บาท/หุ้น พร้อมเลือกหุ้นเด่นเดือน ม.ค. โดยคาดว่า BBL จะเป็นหนึ่งในผู้รับประโยชน์สูงสุดจากการขยายตัวของสินเชื่อและ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทั้งยังมีประเด็นบวกจากการปรับโครงสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมที่โฟกัสที่ธุรกิจ Bancassurance มากขึ้น และคุณภาพหนี้ที่แข็งแรง

ทั้งนี้คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/61 เติบโตได้ดี 1% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และโต 7% เทียบจากปีก่อน เพราะ NIM ที่ทรงตัวสูงและการเติบโตของค่าธรรมเนียมตามฤดูการขายประกันและกองทุน

ส่วนแนวโน้มกำไรปี 2562 คาดการณ์กำไรสุทธิของ BBL ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท โต 5.1% เทียบจากปีก่อน โดยคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อที่ 5% ปรับลดจาก 8% แต่ได้ชดเชยจาก NIM ที่คาดว่าจะปรับขึ้นเป็น 2.35% ในปี 2562 จาก 2.33% ในปี 2561

รวมทั้งคาดการณ์รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิจะเพิ่มขึ้น 5-8% เทียบจากปีก่อน เนื่องจากคาดธุรกิจ Bancassurance ที่น่าจะเป็นเชิงรุกมากขึ้นจากการขายผ่าน AIA และ BLA ในส่วนของผลกระทบจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนผ่านดิจิทัล BBL เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่า KBANK และ SCB ประมาณการดังกล่าวอยู่บนสมมติฐาน Credit cost ที่ 0.94% จาก 1.2% ในปี 2561 เนื่องจากภาระสำรองฯที่ดูผ่อนคลายลง และ Cost to income ratio ที่ 43%

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BBL ด้วยราคาเป้าหมายที่ 240 บาท/หุ้น คาดว่ากำไรจะเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 4/61 ด้วยแรงหนุนจากการขยายตัวของ yield จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และ 2.) การตั้งสำรองลดลงเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนจากการที่ตั้งไปเยอะแล้วตั้งแต่ต้นปี และคุณภาพสินเชื่อที่ทรงตัว รวมทั้ง 3) รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่ดีขึ้น (จากกองทุนรวม ประกันผ่านธนาคารและค่าธรรมเนียมสินเชื่อ)

ทั้งนี้ BBL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม เพราะธนาคารจะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น วัฏจักรการลงทุนเชิงบวก คุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น และงบดุลที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ

พร้อมด้วย นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BBL ประเมินราคาเป้าหมาย 231 บาท/หุ้น และเลือกเป็น Top-pick คาดกำไรไตรมาส 4/61 ที่ 9.01 พันล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน แต่ยังเติบโต 6% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากคาดรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตเมื่อเทียบจากปีก่อนจากผลิตภัณฑ์ที่เติบโตได้ดีในช่วงปลายปี และคาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ลดลงหลังครึ่งปีแรกตั้งสำรองค่อนข้างสูงไปแล้ว

ทั้งนี้มองกำไรปี 62 เติบโตราว 6% เทียบจากปีก่อน โดยปัจจัยหนุนจะมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นทั้งจากการเติบโตของสินเชื่อ และ NIM ที่เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้จากธุรกิจประกันที่มีการร่วมมือกับ AIA คาดว่าจะดีขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ยังคาดคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้นจะกดดันต่อค่าใช้จ่ายสำรองหนี้น้อยลง สำหรับประเด็นอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่คาดว่าเป็นขาขึ้นนั้น เราประเมินว่าดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 25 bps จะส่งผลบวกต่อกำไรของ BBL ราว 5%

อีกทั้งจากการสำรวจข้อมูลพบว่า ล่าสุด ณ วันที่ 15 ม.ค.2562 อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 3.16% ส่วน P/E อยู่ที่ 11.01 เท่า ยังต่ำกว่า P/E ตลาดฯ ซึ่งอยู่ที่  14.87 เท่า

Back to top button