GL รูดหนัก 12% หลังปลด H เซ่นคดี “เจทรัส” ยืดเยื้อ ศาลฯนัดไต่สวนใหม่ 26 เม.ย.62

GL รูดหนัก 12% หลังปลด H เซ่นคดี "เจทรัส" ยืดเยื้อ ศาลฯนัดไต่สวนใหม่ 26 เม.ย.62


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ณ เวลา 15.53 น. อยู่ที่ระดับ 6.40 บาท ลบ 0.90 บาท หรือ 12.33% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 105.42 ล้านบา หลังตลท.ปลดเครื่องหมาย H และศาลมีคำสั่งศาลล้มละลายกลางและให้ไต่สวนคำร้องใหม่ 26 เม.ย.62

โดยบ่ายวันนี้(26ก.พ.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ปลดเครื่องหมาย H หุ้น GL หลังจากได้ขึ้นเครื่องหมายดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามที่บริษัทร้องขอเนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ซึ่งล่าสุดบริษัทแจ้งว่าศาลนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 26 เมษายน 2562

ทั้งนี้ในช่วงเช้าวันนี้ ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ กรณีบริษัท เจทรัสต์ เอเชีย พีทีอี จำกัด (เจทรัสต์) ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลล้มละลายกลางต่อศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ จากการที่ศาลล้มละลายกลางยกคำร้องของเจทรัสต์กรณียื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท

โดยศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำพิพากษาว่า กรณีหนี้ของบริษัท (ลูกหนี้) เป็นหนี้ที่สามารถกำหนดจำนวนแน่นอนได้หรือไม่ ซึ่งศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษเห็นว่ายังต้องพิสูจน์ว่า บริษัทเป็นลูกหนี้จำนวนเท่าใด รวมถึงเป็นหนี้เดียวกันกับคดีแพ่งหมายเลขดำที่พ.83/61 หรือไม่

ส่วนประเด็นว่า บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ ศาลฯเห็นว่า คู่ความต่างยังไม่รับข้อเท็จจริง จึงต้องไต่สวนเพื่อให้ได้ความต่อไป ที่ศาลล้มละลายกลางให้งดไต่สวนและมีคำสั่งยกคำร้องจึงไม่ชอบ จึงให้ยกคำสั่งศาลล้มละลายกลางและให้ไต่สวนคำร้องใหม่เพื่อมีคำสั่งตามรูปคดีว่าจะให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัท (ลูกหนี้) หรือไม่ต่อไป

อนึ่งเนื่องจากผู้ทำแผนเดิมของเจทรัสต์ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ศาลจึงอนุญาตให้เจทรัสต์หาผู้ทำแผนใหม่ ภายใน 45 วันนับแต่วันนี้ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 12 เมษายน 2562 ทั้งนี้ ศาลนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 26 เมษายน 2562 เวลา 9:00-16:30 น.

ทั้งนี้ คำพิพากษาดังกล่าวไม่มีผลทำให้บริษัทจะต้องหยุดประกอบธุรกิจแต่ประการใด บริษัทยังสามารถที่จะประกอบธุรกิจการค้าได้ตามปกติ และยังสามารถดำเนินกิจกรมทางการค้าอันเป็นปกติได้ อาทิ เข้าทำสัญญาต่าง ๆ ที่จำเป็นกับลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัท จ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงานของบริษัทเป็นต้น

Back to top button