แพนิก !

*การเคลื่อนไหวของดัชนีวานนี้ ถือเป็นสิ่งที่ได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ เพราะการที่ดัชนีลงมาทำจุดต่ำสุดของวันบริเวณ  1,652.71 ด้วยแรงกระหน่ำเทขายออกมาตลอดทั้งวัน จนดัชนีเซถลาลงมาปิดที่ 1,653.48 จุด ลบไป 11.79 จุด หรือ 0.71% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท มันเป็นแพตเทิร์นการขายลดความเสี่ยงหลังจากมีปัจจัยภายนอกเข้ามากดดันตลาด


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*การเคลื่อนไหวของดัชนีวานนี้ ถือเป็นสิ่งที่ได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ เพราะการที่ดัชนีลงมาทำจุดต่ำสุดของวันบริเวณ  1,652.71 ด้วยแรงกระหน่ำเทขายออกมาตลอดทั้งวัน จนดัชนีเซถลาลงมาปิดที่ 1,653.48 จุด ลบไป 11.79 จุด หรือ 0.71% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท มันเป็นแพตเทิร์นการขายลดความเสี่ยงหลังจากมีปัจจัยภายนอกเข้ามากดดันตลาด

*ประเด็นที่น่าสนใจในเที่ยวนี้เลยต้องเป็นการลุ้นให้มีคนมารับของเพื่อดันให้ดัชนีมีแรงฮึดขึ้นไปอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังเป็นการรักษาแพตเทิร์นของดัชนีไม่ให้เสียทรงมากไปกว่าที่เคย เพราะการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ลดลงหนักถึงเกือบ 12 จุด ทำให้นักเล่นออกอาการหน้ามืดตามัว “โมนิก้า” ถึงจั่วหัวข่าวให้นักเล่นกลับไปคิดเป็นการบ้านอีกรอบว่า สถานการณ์หลังอาการแพนิกจะเกิดอะไรขึ้น ? เพื่อจะได้รับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตไงล่ะคะ

*ฉะนั้นสิ่งที่น่ากังวลในเที่ยวนี้คงเป็นเรื่องของผลงานปี 2561 ของบริษัทจดทะเบียนที่ดูจะลงมากกว่าขึ้น เลยเข้าใจแก่นแท้ของการเล่นหุ้นรอบนี้ยังวนลูปแบบเดิมหากไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางในไตรมาส 1/2562 ได้ นอกจากนี้ ตัวแปรจากทั้งภายนอกและภายในยังคงมีอิทธิพลต่อการลงทุนของฝรั่งตาน้ำข้าว ถึงจะต้องคอยจับตาดูสถานการณ์รอบทิศให้มากเข้าไว้เพื่อปรับพอร์ตให้กระชับมากขึ้นพะยะค่ะ

*ในรายของ BWG ผลประกอบการพลาดเป้า ดึงหุ้นรูดหนักลงมากองแถว ๆ ด้วยไตรมาส 4/2561 มีผลขาดทุนสุทธิราว ๆ 3 แสนบาท ทำให้ทรงของหุ้นออกมาดูไม่ดีนัก เพราะผลงานท้ายปีออกมาเป็นแบบนี้จึงทำให้ต้องมาลุ้นไตรมาส 1/2562 กันจนหืดขึ้นคอ ถึงมีคนเทขายออกมาล็อตใหญ่ฉุดหุ้นลงมาปิดที่ระดับ 1.09 บาท ลบไป 0.09 บาท หรือลบไป 7.63% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39.71 ล้านบาท

*ส่วนในรายของ EA หลังโชว์ตัวเลขกำไรปี 2561 โตเฉียด 5 พันล้านบาท พ่วงปันผล 0.25 บาท ก็เจอปรากฏการณ์ Sell on Fact ราคาลงมาปิดที่ 47.75 บาท ลบไป 1 บาท หรือลบไป 2.05% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.47 พันล้านบาท แต่เมื่อมองถึงสตอรี่การเติบโตของธุรกิจแบตเตอรี่กับรถ EV ที่เริ่มเห็นภาพชัดขึ้นในปีนี้ “โมนิก้า” ยังยกให้เป็นอีกหุ้นในดวงใจที่ราคาลดลงเมื่อไหร่เป็นสิ่งล่อให้เข้าเก็บ เพราะพื้นฐานและสัญญาณเทคนิคยังมีลุ้นขึ้นไปทดสอบ High เดิมที่ 51.25 ยังไงล่ะจ๊ะ

*รายที่น่าสนใจกลับกลายเป็นหุ้นเล็กอย่าง KWM กระชากขึ้นมาปิดที่ 1.14 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 9.62% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46.17 ล้านบาท ทำนิวไฮในรอบ 3 เดือน หลังผลงานปี 2561 กวาดกำไรมากกว่าปีก่อนถึง 48% ด้านสัญญาณทางเทคนิคของหุ้นเป็นช่วงน่าลุ้น เพราะในการซื้อขายระหว่างวันสามารถขึ้นไปทดสอบจุดเก่าที่ระดับ 1.17 บาท ที่เหลือคงต้องรอให้มีปัจจัยมาจุดติดให้ผ่านแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1.20 บาทได้ รับรองไปต่อได้อีกยาว !

*ในรายของ PTG เป็นหุ้นอีกตัวที่ไม่สะทกสะท้านต่อภาวะตลาด ด้วยการขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.10 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 5.76% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 519.65 ล้านบาท ถึงแม้งบปี 2561 ที่ประกาศออกมาจะยังหดตัว แต่หุ้นตัวนี้ “โมนิก้า” มองว่ายังมีสตอรี่ให้สนใจอีกเยอะ เพราะผลงานที่ลดลงนั้นมาจากค่าใช้จ่ายจากการขยายปั๊ม ส่วนเรื่องของรายได้ยังคงเติบโตสบาย ๆ มันบ่งบอกว่าธุรกิจยังไปได้สวย จึงไม่แปลกใจที่จะมีคนเก็บหุ้นจนวิ่งขึ้นมาระดับนี้…อิอิอิ

*อีกรายที่ทะยานขึ้นมาแบบไม่แคร์ข่าวอย่าง AAV ที่มีแรงซื้อเข้ามาแบบรัว ๆ ดันราคาหุ้นพุ่งพรวดตั้งแต่เปิดตลาดขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.62 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือบวกไป 3.12% แม้ผลงานปี 2561 จะยังไม่น่าประทับใจมากนัก แต่สิ่งที่หนุนราคาหุ้นวิ่งสวนขึ้นมาเดี๊ยนมองไปถึงดีลใหญ่การซื้อหุ้น NOK จากกลุ่ม จุฬางกูรเพราะหากสำเร็จขึ้นมาจริง ๆ เท่ากับว่า AAV จะครองมาร์เก็ตแชร์สายการบินโลว์คอสเกือบ 50%  ทำให้สถานการณ์ของหุ้นตอนนี้ยังมีสตอรี่ที่น่าติดตามยังไงล่ะเจ้าค่ะ

*ด้านหุ้น BJC บวกสวนตลาดขึ้นมาปิดที่ระดับ 49.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือ 2.06% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.12 พันล้านบาท โดยแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่นส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากผลงานไตรมาส 4/2561 ที่โตเด่น 25% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตามยอดขายและกำไรทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัท แถมราคาหุ้นยังเหลือแก๊ปให้เล่นจากเป้า 65 บาท ใครที่กำลังจด ๆ จ้อง ๆ หุ้นตัวนี้อยู่ เดี๊ยนบอกได้เลยไม่ผิดหวังแน่นอน

 

Back to top button