BJC บวกเฉียด 3% แวลู่แน่นติดกระดาน “Most active” โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เคาะเป้าสูงสุด 65 บ.

BJC บวกเฉียด 3% แวลู่แน่นติดกระดาน “Most active” โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" เคาะเป้าสูงสุด 65 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ล่าสุด ณ เวลา 10.38 น. อยู่ที่ระดับ 50 บาท ปรับตัวขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.56% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 270.15 ล้านบาท

ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ “ซื้อ” BJC ราคาเป้าหมาย 65 บาท/หุ้น โดยคาดกำไรปีนี้เติบโตจากทุกกลุ่มธุรกิจ ยอดขายเพิ่มขึ้น 7-9% จากกำลังการผลิตขวดแก้วเพิ่มขึ้น การออกสินค้าอุปโภคบริโภคใหม่ๆ คำสั่งซื้อสินค้ากลุ่มเวชภัณฑ์เพิ่มขึ้น และ BigC ขยายสาขาต่อเนื่อง อัตรากำไรคาดจะเพิ่มขึ้นจากประสิทธิภาพการผลิตและการดำเนินงานสูงขึ้น รวมทั้งต้นทุนพลังงานและราคาวัตถุดิบลดลง

อย่างไรก็ตาม  มองว่ากำไรไตรมาส 1/2562 มีแนวโน้มลดลงตามผลของฤดูกาล แต่คาดจะเติบโตดีจากปีก่อนจากทั้งยอดขายและอัตรากำไรเพิ่มขึ้น โดยได้ผลบวกจากกำลังการผลิตขวดแก้วที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย. 2561 และมีอัตราการใช้กำลังการผลิต 100% ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2561 รองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าได้เพิ่มขึ้นและมีประสิทธิภาพการผลิตสูงขึ้น ขณะที่ BigC มี SSSG ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 62 ใกล้เคียงกับไตรมาส 4/2561 ที่ 1.8% โดยเพิ่มจาก 0.3% ในไตรมาส 1/2561

ทั้งนี้ คาดกำไรของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ฟื้นตัวดีขึ้นในปีนี้ หลังจากได้รับผลกระทบจากการผลิตของโรงงานแก้วที่มาเลเซียขัดข้องในช่วงไตรมาส 2/2561 โดยปัจจุบันกลับมาผลิตตามปกติแล้ว ขณะที่โรงงานขวดแก้วในไทยได้ผลบวกเต็มปีจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นกว่า 10% เป็น 3,155 ตัน/วัน BJC ยังได้ลูกค้ารายใหม่ 2 ราย สำหรับบรรจุภัณฑ์กระป๋องอลูมิเนียมซึ่งมาทดแทนคำสั่งซื้อของ CBG ซึ่งได้เปิดโรงงานผลิตกระป๋องเอง ในด้านต้นทุนของกลุ่มบรรจุภัณฑ์คาดจะได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานลดลง

โดยผลประกอบการของ BigC ปีนี้จะถูกผลักดันจาก SSSG 1-2% การรวม Supply chain เข้ามาบริหารเอง และการขยายสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต 8 สาขา โดยจะเปิดสาขาแรกในต่างประเทศ คือ กัมพูชา (ปอยเปต) และในอีก 2-3 ปี อาจเข้าไปเปิดสาขาร้านสะดวกซื้อ ส่วนในประเทศลาว จะมีการปรับเปลี่ยนร้านสะดวกซื้อ M-Point Mart 46 สาขา ให้เป็น Mini BigC ในกลางปีนี้ ซึ่งเราคาดยังไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้น แต่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคของ BJC ยังคงมีแนวโน้มทำยอดขายเพิ่มขึ้นจากการมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น และการเปิดตัวสินค้าใหม่ ส่วนยอดขายสินค้าเวชภัณฑ์และเทคนิค คาดว่าเติบโตได้เกิน 10% รวมทั้งได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า ทำให้สินค้านำเข้ามีต้นทุนลดลง

 

Back to top button