PPPM พุ่งกระฉูด 17% คาดรายได้ปีนี้โต 20% หลังทยอยรับรู้แบ็กล็อก-อุตสาหกรรมสัตว์น้ำฟื้นตัว

PPPM พุ่งกระฉูด 17% คาดรายได้ปีนี้โต 20% หลังทยอยรับรู้แบ็กล็อก-อุตสาหกรรมสัตว์น้ำฟื้นตัว โดย ณ เวลา 15.32 น. ราคาอยู่ที่ 3.08 บาท บวก 0.44 บาท หรือ 16.67% สูงสุดที่ 3.26 บาท ต่ำสุดที่ 2.66 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 42.71 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ PPPM ล่าสุด ณ เวลา 15.32 น. อยู่ที่ 3.08 บาท บวก 0.44 บาท หรือ 16.67% สูงสุดที่ 3.26 บาท ต่ำสุดที่ 2.66 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 42.71 ล้านบาท

พลเอกเชาวฤทธิ์ ประภาจิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PPPM เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2562 มีมติเลื่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) ครั้งที่ 1/2562 เป็นวันที่ 24 เมษายน 2562 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม บมจ.พีพี ไพร์ม จังหวัดเพชรบุรี (จากเดิมในวันที่ 25 มีนาคม 2562)

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับการแจ้งถึงแหล่งเงินทุนที่จะได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องระดมทุนอย่างเร่งด่วน ส่งผลให้คณะกรรมการมีมติเห็นสมควรในการเลื่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นออกไป เป็นวันดังกล่าว ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ถือหุ้น และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนแก่ผู้ถือหุ้นต่อไป

“สำหรับวาระการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 และวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 (Record Date) ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่เปลี่ยนแปลงกำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน ที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จากเดิม ในวันที่ 22 เมษายน 2562 ถึงวันที่ 26 เมษายน 2562

โดยเปลี่ยนเป็นวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 และในวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 ถึงวันที่  28 พฤษภาคม 2562 นอกจากนี้ ได้กำหนดให้วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว (Record Date) จากเดิมวันที่ 2 เมษายน 2562 เปลี่ยนเป็นวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงกำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562”  พลเอกเชาวฤทธิ์ กล่าว

ด้าน นายประวีณ ดีขจรเดช ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจในปี 2562 ว่า จากการประเมินสถานการณ์ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำ เชื่อว่ายังมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสัตว์น้ำของไทย โดยเฉพาะกุ้ง ที่มีจุดแข็งทางด้านสายพันธุ์ที่ดีที่สุด ในโลกเหนือคู่แข่ง และเป็นที่ยอมรับจากผู้นำเข้าและผู้บริโภค ผนวกกับแผนกลยุทธ์ที่เข้าถึงลูกค้าอย่างตรงกลุ่ม

รวมทั้งจากธุรกิจอื่นๆ ที่ทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ คาดว่าอัตราการเติบโตของรายได้ปีนี้ มีโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้น 20% หรือแตะที่ระดับ 2,500 ล้านบาท

Back to top button