KTAM จ่อปันผล 4 กองทุนหุ้นไทย-อสังหาฯ 15 พ.ค.นี้

KTAM จ่อปันผล 4 กองทุนหุ้นไทย-อสังหาฯ 15 พ.ค.นี้


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนของบริษัท มีมติจ่ายเงินปันผล 4 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยซีเล็คทีฟ อิควิตี้ ฟันด์ ( KTSE) กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว ( KTLF) กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ ( KT-Hidiv ) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท (TLGF) พร้อมกันในวันที่ 30 เมษายน 2562 ยกเว้นกองทุน TLGF จ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2562

โดยกองทุน KTSE จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1 /2562 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 มกราคม -31 ธันวาคม 2562 ผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี รวมทั้งลงทุนในตราสารแห่งหนี้ บริษัทจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 หลักทรัพย์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ในปี2554 จ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 16 ครั้ง จำนวน13.30 บาทต่อหน่วย ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 19 เมษายน 2562 นับตั้งแต่ต้นปี (2ม.ค. -19 เม.ย. 62 ) อยู่ที่ 5.42% Benchmark อยู่ที่ 8.37%

ส่วนกองทุน KTLF ประเภท LTF จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1 /2562 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ วันที่ 1 ตุลาคม 2561 -30 กันยายน 2562 ผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งผลตอบแทนอ้างอิงกับหุ้นหรือหุ้นกลุ่มของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม

รวมทั้งลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต.กำหนด นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2547 จ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 14 ครั้ง จำนวน 2.35 บาทต่อหน่วย ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 19 เมษายน 2562 นับตั้งแต่ต้นปี ( 2 ม.ค. -19 เม.ย.62 ) อยู่ที่ 6.45% Benchmark อยู่ที่ 8.37%

ขณะที่กองทุน KT-Hidiv จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1/2562 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 กันยายน 2561 – 31 สิงหาคม 2562 ผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานผลการดำเนินงานที่ดี มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดีสม่ำเสมอ และ/หรือมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต โดยมีอัตราส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2556 จ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 4 ครั้ง จำนวน 1.20 บาทต่อหน่วย ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 19 เมษายน 2562 นับตั้งแต่ต้นปี (2 ม.ค. -19 เม.ย.62 ) อยู่ที่ 6.79% Benchmark อยู่ที่ 7.78%

ด้านกองทุน TLGF จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 28 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ 1 ธันวาคม 2561 – 28 กุมภาพันธ์ 2562 อัตรา 0.2249 ปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 30 เมษายน 2562 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ส่วนกองทุน KTSE KTLF และ KT-Hidiv จ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 30 เมษายน 2562

ทั้งนี้ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ ของ บลจ. กรุงไทย มองว่า ตลาดหุ้นโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น จากแรงหนุนของสภาพคล่องที่กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นทั่วโลก หลังเฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์ และสามารถปรับตัวขึ้นตามตลาดอื่นๆได้

รวมทั้งโอกาสที่หุ้นไทยจะปรับตัวเป็นขาลง อาจจะมีไม่มากนัก เนื่องจาก ระบบการเงินไทยโดยรวมมีเสถียรภาพอยู่ในเกณฑ์ดี ระบบสถาบันการเงินมีความมั่นคง และมีเสถียรภาพด้านต่างประเทศที่เข้มแข็ง สะท้อนจากภาระหนี้ต่างประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ เงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง และดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลต่อเนื่อง ทำให้สามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจการเงินโลกได้ดี ดังนั้น นักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นไทย สามารถทยอยสะสมได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุน LTF และ RMF โดยเป้าหมายดัชนีในปีนี้ บริษัทคาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 1,740 จุด

Back to top button