TNR มั่นใจผลงานปี 62 โตต่อ รับแผนปรับพอร์ตสินค้า-ขยายประเทศคู่ค้าใหม่

TNR มั่นใจผลงานปี 62 โตต่อ รับแผนปรับพอร์ตสินค้า-ขยายประเทศคู่ค้าใหม่


นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการปรับพอร์ตสินค้า จากปัจจุบันที่ยอดขายส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิตและกลุ่มธุรกิจงานประมูล ก็จะหันมาเน้นเพิ่มรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท (OBM)

ประกอบด้วย PLAYBOY เป็นแบรนด์หลักที่ใช้เจาะตลาดพรีเมียมในไทยและต่างประเทศ และแบรนด์ ONETOUCH(TM)  ที่ทำตลาดระดับกลางในประเทศไทย และกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยการปรับพอร์ตสินค้าดังกล่าวต้องใช้เวลาในการสร้างฐานการตลาด จึงยังไม่สามารถเห็นผลได้ทันที

ทั้งนี้ หลังจากช่วงไตรมาส 2/61 ที่บริษัทเข้าซื้อสิทธิ์การขายและทำการตลาดถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่นภายใต้แบรนด์ PLAYBOY ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ในปีนี้ถือเป็นช่วงของการสื่อสารและทำการตลาดอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน ตลอดจนการปรับพอร์ตสินค้าเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) และกลุ่มธุรกิจงานประมูล (Tender)

ขณะที่ภาพรวมการดำเนินงานช่วงไตรมาส 1/62  บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเกิดจากการจัดงาน PLAYBOY CONDOMS GLOBAL SUMMIT ในประเทศไทย ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ PLAYBOY เช่น ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายและการตลาด ค่าตัดจำหน่ายเครื่องหมายการค้าและค่าลิขสิทธิ์

ขณะที่ช่วงเดียวกันของปี 61 บริษัทยังไม่มีค่าใช้จ่ายดังกล่าว โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะเริ่มเกิดขึ้นในไตรมาส 2/61 หลังเข้าซื้อสิทธิ์การขายและทำตลาด PLAYBOY นอกจากนี้ยังมีคำสั่งซื้อสินค้าบางส่วนที่เลื่อนส่งมอบเป็นไตรมาส 2/62 จึงส่งผลต่อภาพรวมการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

“ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างการปรับพอร์ตสินค้าซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมบริษัทในระยะยาว จากปัจจุบันที่ยอดขายส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิตและกลุ่มธุรกิจงานประมูล เราจะหันมาเน้นเพิ่มรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทแทน ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการปรับพอร์ต และคาดว่าจะเห็นผลภายในปี 62 โดยการขยายประเทศคู่ค้าใหม่ ๆ และเพิ่มคำสั่งซื้อสินค้าในประเทศคู่ค้าที่มีอยู่ในปัจจุบันมากขึ้น” นายอมร กล่าว

Back to top button