“เมย์แบงก์ฯ” ชี้ผลงาน JMT โตแรง เคาะเป้าสนั่น 20.80 บ. สะท้อนกำไร”All time high”ทุกไตรมาส

“เมย์แบงก์ฯ” ชี้ผลงาน JMT โตแรง เคาะเป้าสนั่น 20.80 บ. สะท้อนกำไร"All time high"ทุกไตรมาส


บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (19 มิ.ย.62) ว่า จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าไตรมาส 1/62 Gross NPLs ของสถาบันการเงินรวม 4.56 แสนล้านบาท เติบโต 2.4% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ใกล้เคียงกับการเติบโตของสินเชื่อในระบบที่ปรับขึ้น 3% จากปีก่อน คิดเป็น 2.95% ของสินเชื่อรวม +2bps จากปีก่อน สอดคล้องมุมมองผู้บริหารว่าบรรยากาศการประมูลขายหนี้ที่ยังเป็นปกติเหมือนปีก่อน

ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้เห็นภาพว่าการเติบโตในปีนี้ไม่น่ากังวล คาดเงินลงทุนซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มจะไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว 2.5 พันลบ. คิดเป็นมูลหนี้ไม่ต่ำกว่า 2-2.5 หมื่นลบ. เทียบพอร์ตหนี้สิ้นปี 2561 เท่ากับ 1.46 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 15-17% จากปีก่อน คาดเริ่มเห็นรอบการซื้อ Secured loan หลักพันล้านช่วงกลางปีนี้ และ Non-secured อีกก้อนใหญ่ในช่วงปลายไตรมาส 3-4 เป็นฐานการเติบโตในปีหน้า

ทั้งนี้ คงมุมมองบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 2/62 คาดรายได้ 575 ลบ. เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อน ตามเงินสดเรียกเก็บ (Cash collection) 730 ลบ. เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน,เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน จากกองหนี้ใหม่ที่ซื้อเข้ามาปลายปี 61 และกองที่ตัดต้นทุนหมด  ทำให้อัตรากำไรดีขึ้นในทุกระดับ แม้ธุรกิจประกันจะยังขาดทุนใกล้เคียงไตรมาสก่อน แต่เริ่มมีพัฒนาการบวกจากยอดขายต่อเดือนเพิ่มขึ้น และการทยอยปรับพอร์ตให้ Loss Ratio ลดลง ก่อนจะพลิกเป็นกำไรในช่วงปลายปี ประเมินกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/62 เท่ากับ 150 ลบ. เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน,เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน ถือเป็นอีกไตรมาสที่ยังรักษาสถิติ All time high ไว้ได้ มีลุ้นสูงที่กำไรสุทธิจะทำลายได้ต่อในอีกสองไตรมาสที่เหลือแบบไตรมาสก่อนตามรอบการเก็บหนี้อิงสถิติ 2 ปีย้อนหลัง  )

ทั้งนี้เพื่อให้สะท้อนโมเมนตัมที่ดีชัดเจนใน 6-12 เดือนข้างหน้าทั้งในแง่กำไรสุทธิช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 จากกองหนี้ที่รับรู้กำไร 100% ตั้งแต่ปลายไตรมาส 2/62 และส่วนที่กำลังทยอยซื้อใหม่ในปีนี้ ซึ่งโอกาสซื้อได้มากกว่าเป้าจากประเด็น IFRS9 (ไม่รวมในประมาณการ) ก่อนจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มที่ในไตรมาส 1-2 ปี 63 และมีธุรกิจประกันเป็นอีก Upside risk ที่น่าติดตามต่อในปีหน้า จึงปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 20.80 บาท/หุ้น อิง Forward P/E ปี 63 เพิ่มขึ้น 1.50SD = 22 เท่า เทียบอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3 ปี (2562-64) เติบโต 23% คิดเป็น PEG = 0.96 เท่า

Back to top button