ITEL เด้ง 5% นิวไฮรอบ 9 เดือน โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ชูเป้า 4.80 บ. คาดกำไรไตรมาส 2/62 โต 29%

ITEL เด้ง 5% นิวไฮรอบ 9 เดือน โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ชูเป้า 4.80 บ. คาดกำไรไตรมาส 2/62 โต 29% โดย ณ เวลา 15.18 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 3.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 5.06% สูงสุดที่ระดับ 3.84 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.58 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24.99 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ณ เวลา 15.18 น. อยู่ที่ระดับ 3.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 5.06% สูงสุดที่ระดับ 3.84 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.58 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24.99 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 3.74 บาท เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2561

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.ค.62) แนะนำ “ซื้อ” ITEL ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท/หุ้น โดยคาดกำไรไตรมาส 2/62 ดีต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้จากงานติดตั้งโครงข่าย (Installation) เพิ่มมากขึ้น โดยคาดกำไรเพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เป็น 43.5 ล้านบาท แนวโน้มครึ่งปีหลังยังสดใสจากธุรกิจ Installation ที่มีต่อเนื่อง หลักๆมาจากโครงการงานจ้างระบบสื่อสาร DMS และ USO ซึ่งต้องส่งมอบภายในปีนี้ราว 1.0-1.2 ล้านบาท แต่เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ อัตรากำไรจึงต่ำกว่าปกติ

อีกทั้งบวกกับต้นทุนการนำสาย Fiber Optic ลงดินมีแนวโน้มสูงขึ้นซึ่งมีผลไปบ้างแล้วในไตรมาส 1/62 แต่จะมีผลเต็มที่ตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เราจึงปรับลดประมาณการกำไรทั้งปีลงจากเดิม 8% เป็น 171 ล้านบาทจากเดิม 184 ล้านบาท กำไรดังกล่าวยังเติบโตสูงถึง 28% จากช่วงเดียวกนเมื่อปีก่อน ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 4.80 บาทจากเดิม 5.50 บาท (DCF, WACC 7%) เป้าดังกล่าวคิดเป็น Implied PE 28 เท่าปีนี้และ 25 เท่าปีหน้า และคิดเป็น PEG 1 เท่าปีนี้ และใกล้เคียงกลุ่ม เรายังชอบศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวของ ITEL ซึ่งมีทั้งโอกาสในการประมูลงานใหม่ๆและมี Recurring income ในสัดส่วนสูง จึงยังแนะนำซื้อ

โดยปรับประมาณการกำไรปี 2562 ลงเล็กน้อย 8% จากเดิมคาด 184.9 ล้านบาท เป็น 170.8 ล้านบาท จากการปรับอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ Data Service (บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง) ลงจากเดิมคาด 32% เป็น 30% เพราะต้นทุนการนำสาย Fiber optic ลงดินที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากในอดีตซึ่งมีผลกระทบไปบ้างแล้วในไตรมาส 1/62 จะมีผลเต็มที่ตั้งแต่ไตรมาส 2/62 และปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจ Installation (ติดตั้งโครงข่าย) ลงจากเดิม 17% เป็น 14% เนื่องจากงานที่รับรู้ในปีนี้หลักๆ มาจากโครงการขนาดใหญ่คืองานจ้างระบบสื่อสาร DMS และ USO เฟส 2 ซึ่งเป็นงานที่มีมาร์จิ้นต่ำกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม กำไรที่ปรับลงยังเติบโตจากปีก่อน 28.4% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

ขณะที่ภาพรวมในไตรมาส 2/62 จะดีขึ้นต่อเนื่องเพราะงาน Installation เริ่มทยอยเข้ามามากขึ้น โดยบริษัทคาดว่าทั้งโครงการ DMS และ USO จะต้องส่งมอบให้เสร็จภายในปีนี้ราว 1.0-1.2 พันล้านบาท โดยรับรู้ไปในไตรมาส 1/62 เพียง 222 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นของโครงการดังกล่าวที่ต่ำกว่างานก่อนๆ ของบริษัท แต่ถูกชดเชยได้จากปริมาณรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น จึงคาดรายได้รวมในไตรมาส 2/62 ที่ 523.9 ล้านบาท +16.8% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 6.7% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และคาดกำไรสุทธิ 43.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.9% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

อย่างไรก็ดี จากการปรับประมาณการกำไรลง กระทบมูลค่าตามวิธี DCF (WACC 7%) ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2562 ลดลงจากเดิม 5.50 บาท เป็น 4.80 บาท ยังมี upside จากราคาหุ้นปัจจุบันราว 40% และราคาเป้าหมายดังกล่าวคิดเป็น Implied PE 28 เท่าปีนี้และ 25 เท่าปีหน้า คิดเป็น PEG 1 เท่าในปีนี้ และใกล้เคียงอุตสาหกรรม เรายังคงชอบศักยภาพของ ITEL ในการประมูลงานต่างๆ ในอนาคต ยังคงแนะนำซื้อ

Back to top button