CHG บวก3% นิวไฮรอบ9เดือน โบรกฯเชียร์”ซื้อ” ชูเป้า2.70บ. คาดกำไรครึ่งปีหลังสดใสรับไฮซีซั่น

CHG บวก3% นิวไฮรอบ9เดือน โบรกฯเชียร์"ซื้อ" ชูเป้า2.70บ. คาดกำไรครึ่งปีหลังสดใสรับไฮซีซั่น โดย ณ เวลา 16.21 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 2.44 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.39% สูงสุดที่ระดับ 2.46 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.36 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 165.46 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG ณ เวลา 16.21 น. อยู่ที่ระดับ 2.44 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.39% สูงสุดที่ระดับ 2.46 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.36 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 165.46 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน 13 วัน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.44 บาท เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2561

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ส.ค.62) ระบุในบิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” CHG ราคาเป้าหมาย 2.70 บาท/หุ้น โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรปกติครึ่งปีหลัง 2562 ของ CHG ที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตโดดเด่นทั้งจากครึ่งปีก่อน และ ช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากทั้งอานิสงส์ของ High Season ซึ่งหนุนการเติบโตของโรงพยาบาลหลักเดิม รวมถึงผลขาดทุนของโรงพยาบาลใหม่ที่ทยอยลดลง

โดยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติขึ้นเฉลี่ย 4-5% สะท้อน Upside ที่มีจากครึ่งปีแรก 2562 ที่ทำได้ดีกว่าที่ประเมิน โดยปี 2562 คาดเติบโตเพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และเร่งตัวขึ้นเป็น เพิ่มขึ้น 13.3% ในปี 2563 จึงปรับใช้ราคาเหมาะสมปีหน้าที่ 2.70 บาท โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ขณะที่คาดว่าผลการดำเนินงานของ CHG ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 2/62 ทั้งจาก Low Season รวมถึงมีการบันทึกสำรองผลประโยชน์พนักงานและกลับรายได้ประกันสังคมส่วนโรคซับซ้อน (RW > 2) ออกบางส่วน โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรปกติครึ่งปีหลัง 2562 จะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นทั้งจากครึ่งปีแรก และ จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

ทั้งนี้ จากแรงหนุนของทั้ง High Season ซึ่งหนุนการเติบโตของโรงพยาบาลหลักเดิม (รพ.จุฬารัตน์ 3 9 และ 11 คิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของรายได้รวม) ให้เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่ผลขาดทุนเริ่มแรกของโรงพยาบาลใหม่ทั้งรพ.จุฬารัตน์ 304 และรพ.รวมแพทย์ฉะเชิงเทราคาดว่าจะทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง (ครึ่งปีแรก ขาดทุนรวมกันราว 72 ลบ.)

อย่างไรก็ดี ปรับเพิ่มประมาณการกำไรจาก Upside ที่มีจากกำไรปกติครึ่งปีแรก 2562 โดยภาพรวมที่ออกมาแข็งแรงกว่าคาดและคิดเป็น 48% ของประมาณการทั้งปี ประกอบโมเมนตัมกำไรในครึ่งปีหลังที่คาดโตโดดเด่น จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติขึ้นเฉลี่ยราว 4-5% สะท้อน Upside ที่มี ส่งผลให้กำไรปกตีปี 2562 ขยับขึ้นมาที่ 684 ลบ. เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ขณะที่ปี 2563 คาดเติบโตเร่งตัวขึ้นเป็น 776 ลบ. เพิ่มขึ้น 13.3% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากทั้งโรงพยาบาลหลักเดิมที่เติบโต รวมถึงโรงพยาบาลใหม่ๆที่มีโอกาสเริ่มถึงจุดคุ้มทุนในปี 2563 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม จากโมเมนตัมกำไรที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะกลับมาเติบโตจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/62 เป็นต้นไปต่อเนื่องปี 2020 เราจึงปรับใช้ราคาเหมาะสมปีหน้าที่ 2.70 บาท (DCF WACC 6.36% Terminal Growth 3%) มี Upside เปิดกว้าง 14.4% จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

Back to top button