คัด 8 หุ้นเด็ดโบรกฯแนะเก็บเข้าพอร์ต ชี้ปันผลดึงดูด-ครึ่งปีหลังโตแกร่ง

คัด 8 หุ้นเด็ดโบรกฯแนะเก็บเข้าพอร์ต ชี้ปันผลดึงดูด-ครึ่งปีหลังโตแกร่ง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้ทำการสำรวจและรวบรวมบทวิเคราะห์ที่แนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ โดยพบว่านักวิเคราะห์มองว่าตลาดหุ้นไทยจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,630-1,670 จุด โดยมองว่ายังไม่มีปัจจัยบวกจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติเริ่มลดการขายหุ้นไทยออกมา

โดยแนะนำเลือกเล่นหุ้น 3 กลุ่มหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐฯ ,กลุ่ม Defensive Stock และกลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ก.ย.62) โดยมอง SET Index แกว่งในกรอบ 1,630-1,670 จุด โดยแม้ยังไม่มีปัจจัยบวกจากต่างประเทศ แต่แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มลดลง บวกกับมีสัญญาณรีบาวด์จากช่วงปลายสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์ในต่างประเทศในวันนี้และสัปดาห์หน้าโดยแนะนำเลือกหุ้นรายตัวโดยทยอยเก็บเข้าพอร์ตในหุ้นหลัก 3 กลุ่ม ดังนี้

1. หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐฯ: มองว่า ครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้นศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. จึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดเห็นการฟื้นตัวจากครึ่งปีแรกจากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog อยู่ถึง 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้

อีกทั้งยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), CPALL (ช่วงไตรมาส 3/62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำปีก่อนจะหนุนSSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (แม้ช่วงไตรมาส 2/62 กำไรปกติหดตัว แต่ในช่วงครึ่งปีหลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม. อีกทั้งมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ก.ค. โต 5.8% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน)

2. กลุ่ม Defensive Stock: เลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.

3. กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดโตจากช่วงเดียวกันเมื่อปก่อนและช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8% จากปีก่อน หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่อีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้น

โดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลังTender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่

อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 กำไรโต 45.8% จากปีก่อน หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364% จากปีก่อนจากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ) และ ARROW (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 กำไรโตจากปีก่อนหลังมาร์จิ้นเริ่มฟื้นตัวจากต้นทุนเหล็กที่ลดลงและนโยบายการปรับราคาขายที่ดี จึงปรับเพิ่มประมาณการคาดปี 62 กำไรทั้งปีโต 10.3% จากปีก่อน)

Back to top button